10 เทคนิคการเล่นเปียโนที่จะทำให้เล่นเก่งขึ้นทันที

สำหรับนักเรียนที่กำลังเรียนเปียโนอยู่ วันนี้ครูลิสท์แบบฝึกหัด 10 อย่างที่นักเปียโนเก่งๆทุกคนล้วนผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก ซึ่งแบบฝึกหัดฝึกเทคนิคที่ครูจะกล่าวถึงในวันนี้สามารถทำให้เรามีเทคนิคในการเล่นเปียโนที่แข็งแรงขึ้นทำให้เล่นเพลงยากๆและเพลงที่ต้องใช้ความเร็วในการเล่นได้ค่ะ พร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะ

  1. ฝึกเล่นเปียโนด้วยเทคนิค 5 finger pattern
  2. ฝึกเปียโนด้วยการเล่นสเกล แบบ Contary Motion
  3. ฝึกเปียโนด้วยการเล่นสเกล Major และ Minor แบบ Parallel
  4. ฝึกเปียโนด้วยการเล่นสเกลแบ octave
  5. ฝึกเล่นเปียโนด้วยเทคนิค Block Chords
  6. ฝึกเล่นเปียโนด้วยเทคนิค Broken Chords
  7. ฝึกเปียโนด้วยการเล่น Arpeggio
  8. ฝึกเล่นเปียโนด้วยเทคนิค Rhythmic Pattern
  9. ฝึกเทคนิคการเล่นเปียโนจากแบบฝึกหัด Hanon
  10. ฝึกเทคนิคการเล่นเปียโนจากแบบฝึกหัด Cherzny

ก่อนจะไปฝึกเล่นกัน ครูฝากคอร์สเรียน “เล่นเปียโนป๊อบได้ใน 10 วัน” ไว้ด้วยนะคะ ในคอร์สนี้นักเรียนจะได้เรียนเพลงป๊อบ 3 เพลงซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการเล่นเพลงอื่นๆได้อีกเป็นพันๆเพลง เราจะฝึกเรื่องการเปลี่ยนคอร์ดให้เร็ว การเล่น 2 มือ การเล่นประกอบการร้อง การเปลี่ยนคีย์ นักเรียนที่ไม่เคยเรียนเปียโนมาก็สามารถเล่นเปียโนได้ภายใน 10 วันค่ะ ในคอร์สจะมี backing track สำหรับฝึกซ้อมและเอกสารดาวน์โหลดด้วยค่ะ

เดี๋ยวเราไปดูวิธีฝึกการเทคนิคการเล่นเปียโนให้เก่งกันเลยค่ะ

1. ฝึกเล่นเปียโนด้วยเทคนิค 5 fingers pattern

วีดีโอการเล่น 5 fingers pattern

สำหรับแบบฝึกหัดข้อแรกนี้เป็นแบบฝึกหัดในการเรียนเปียโนเริ่มต้นเลยค่ะ การเล่น 5 finger pattern นี้เพื่อให้นักเรียนชินกับการเล่น 2 มือ และเป็นพื้นฐานในการสร้างคอร์ดด้วยค่ะ

คีย์แรกที่เราจะเล่นคือคีย์ C Major วิธีการก็คือเราจะวางนิ้วทั้ง 5 ของเราลงบนคีย์ โดยที่มือขวาเราจะวางเรียงนิ้ว 1-2-3-4-5 โดยนิ้ว 1 จะวางไว้ที่ตัว C และเรียงนิ้วไปเรื่อยๆจนนิ้ว 5 ไปจบที่ตัว G มือซ้ายเราจะวางนิ้ว 5 ไว้ที่ตัว C และไล่ไปเรื่อยจนไปจบที่ตัว G นิ้ว 1 ค่ะ

เราจะเริ่มเล่นตั้งแต่ตัว C ไปจนถึงตัว G ทั้งสองมือ เริ่มแรกให้เล่นช้าๆก่อนและให้แน่ใจว่าทั้งสองมือลงพร้อมกัน และอย่าลืมดูว่านิ้วต้องโค้งด้วยนะคะ เพื่อนๆสามารถดูรูปประกอบได้ตามภาพข้างล่างค่ะ

หลังจากเพื่อนๆซ้อมคีย์ C จนคล่องแล้ว เราจะซ้อมคีย์อื่นๆทั้ง Major และ minor เพื่อนๆสามารถดาวน์โหลดโน้ตไปซ้อมได้ตามลิงค์นี้เลยนะคะ 5 finger pattern ในไฟล์ที่เพื่อนๆจะดาวน์โหลดนั้นครูจะเขียนโน้ตสำหรับคีย์อื่นๆเอาไว้แต่ไม่ได้ใส่แพทเทิร์นสำหรับซ้อมไว้ ดังนั้นเวลาซ้อมเพื่อนๆต้องซ้อมแบบตัวอย่างข้างบนนะคะ สำหรับนักเรียนที่เล่นคอร์ดและสเกลคล่องแล้วสามารถข้ามข้อนี้ไปได้ค่ะ

เพื่อนๆที่ยังอ่านโน้ตไม่คล่อง ลอเช็คคอร์สเรียน การอ่านโน้ตฉบับสมบูรณ์ ที่จะมีแบบฝึกหัดให้ทำมากกว่า 1000 ข้อทั้งแบบออนไลน์และแบบทำมือ รับรองว่าเรียนจบคอร์สแล้วจะอ่านโน้ตได้คล่องเลยค่ะ

2. ฝึกเปียโนด้วยการเล่นสเกล Major และ Minor แบบ Contrary Motion

สเกลนั้นเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเล่นดนตรีทุกประเภท ในเปียโนนั้นการเล่นสเกลนอกจะช่วยในด้านทฤษฎีดนตรีแล้ว การไล่สเกลยังเป็นการฝึกเทคนิคที่สำคัญมากอีกด้วย ถ้าเราสามารถเล่นสเกลได้เร็วและสมบูรณ์แบบเราก็จะเล่นเพลงได้สมบูรณ์แบบเช่นกันค่ะ

เพลงส่วนมากนั้นจะมีโครงสร้างของทำนองและคอร์ดมาจากสเกล ซึ่งหากเพื่อนๆเล่นสเกลจนจำได้ขึ้นใจแล้ว เวลาเล่นเพลงเราสามารถนำแพทเทิร์นของสเกลมาใช้กับเพลงได้เลย โดยเฉพาะในเปียโนคลาสสิค เช่นเพลงของ โมสาร์ท ก็จะมีการใช้แพทเทิร์นของสเกลมาใช้อย่างสม่ำเสมอ ครูเขียนบทความ 10 เพลงง่ายๆของโมสาร์ทสำหรับนักเรียนเปียโนระดับต้นเอาไว้ เพื่อนๆสามารถคลิกอ่านได้ที่ 10 เพลงง่ายๆของโมสาร์ทที่เหมาะกับนักเรียนระดับต้น

ตัวอย่างโน้ตสเกลและการใช้นิ้วที่ถูกต้อง เพื่อนๆสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงค์นี้เลยนะคะ การเล่นสเกล Major 3แบบ และ การเล่นสเกล minor 3 แบบ โดยในลิงค์นี้จะมีการเล่นสเกลแบบ Contrary Motion, Parallel Motion และ แบบ Octave ค่ะ ซึ่งจะกล่าวต่อไปในข้อ 3และ 4 ค่ะ

Scale แบบ Contrary Motion คือการเล่นสเกลที่มือขวาและมือซ้ายไล่สวนทางกัน ถ้าเพื่อนๆเพิ่งหัดเล่นสเกลครูแนะนำให้ฝึกเล่นสเกลแบบ Contrary Motion ก่อน เนื่องจากทั้งสองมือจะใช้นิ้วเหมือนกันจึงทำให้ง่ายต่อการเล่นค่ะ

จากตัวอย่างด้านบนเราจะเล่นสเกล 1 octave ก่อน และเมื่อเพื่อนๆเล่นคล่องแล้วเราจะเพิ่มเป็น 2 octave และ 4 octave ตามลำดับค่ะ และสำหรับ 4 octave เราจะเล่นในจังหวะของตัวเขบ็จ 2 ชั้นค่ะ ที่เราจำเป็นต้องฝึกไล่สเกล 4 octave และเล่นในจังหวะของตัวเขบ็จ 2 ชั้นเพราะจะช่วยฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและสามารถเล่นเพลงเร็วๆได้ค่ะ

3. ฝึกเปียโนด้วยการเล่นสเกล Major และ Minor แบบ Parallel Motion

การเล่นสเกลแบบ Parallel Motion เป็นการไล่โน้ตขึ้นและลงไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองมือ ซึ่งการไล่สเกลลักษณะนี้จะยากกว่าแบบข้างต้นเนื่องจากทั้ง 2 มือจะใช้นิ้วคนละแบบค่ะ จึงต้องมีการแยกประสาทมากกว่าแบบ Contrary Motion เพื่อนๆสามารถดูได้จากตัวอย่างด้านล่างค่ะ

เวลาซ้อมเพื่อนๆควรซ้อมจากช้าๆและอย่าลืมซ้อมกับ metronome ด้วยค่ะ หลังจากเล่นได้คล่องแล้วเราจะเพิ่มเป็น 2 octave และ 4 octave ตามลำดับค่ะ เพื่อนสามารถดูโน้ตตัวอย่างของการฝึกสเกลแบบ 4 octave ได้ด้านล่างค่ะ

เพื่อนๆควรฝึกสเกลทุกคีย์และฝึกอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยเพิ่มเทคนิคของนิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ สำหรับใครที่ต้องการโน้ตสเกล ครูแนะนำว่านักเรียนควรซื้อหนังสือที่ชื่อว่า Hanon นะคะ ซึ่งครูจะอธิบายเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ในข้อหลังๆ ในหนังสือเล่มนี้จะมีสเกลทุกคีย์ซึ่งจะอยู่ในบทที่ 39 ค่ะ

4. ฝึกเปียโนด้วยการเล่นสเกลแบบ octave

การฝึกเล่นสเกลเป็น Octave นั้นช่วยได้หลายเรื่องมากๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแม่นยำในการกดคีย์ เพราะเวลาเรากด Octave นั้นตาเราจะต้องเล็งให้แม่นเพราะเวลาเล่นเราจะต้องยกมือทั้งมือและจะต้องเคลื่อนมือตลอดเวลา ซึ่งต่างกับการเล่นสเกลธรรมดาที่นิ้วจะไล่ไปเรื่อยๆ การฝึกสเกลแบบ Octave ยังช่วยให้นิ้ว 5 แข็งแร็งขึ้นและข้อมือแข็งแรงขึ้นเช่นกัน

สำหรับเพื่อนๆที่เล่นเพลงป๊อบ การฝึกเล่น Ocatave จะช่วยให้การเล่นทำนองเพลงมีสีสันมากขึ้น เพราะแทนที่เราจะเล่นทำนองด้วยโน้ตตัวเดียวแต่เราเล่นด้วยโน้ต 2 ตัวก็จะทำให้เสียงแน่นขึ้น นอกจากนี้หากเราต้องการใส่คอร์ดที่มือขวาแบบเต็มรูปแบบ การเล่น Octave ก็จะทำให้จับคอร์ดง่ายขึ้นค่ะ ตัวอย่างการเล่นสเกลแบบ Octave ดูได้ที่ด้านล่างนะคะ

และเช่นกันสำหรับการฝึกเทคนิคนี้เพื่อนๆควรฝึกให้ได้ทุกคีย์ค่ะ แต่หากมีเวลาจำกัดสามารถเลือกฝึกสเกลแบบ Parallel Motion ก่อน เพราะจะใช้มากที่สุดค่ะ

5. ฝึกเล่นเปียโนด้วยเทคนิค Block Chords (กดคอร์ดพร้อมกัน)

เพื่อนๆที่เล่นป๊อบอย่าพลาดฝึกสิ่งนี้เป็นอันขาดค่ะ เพราะถือว่าเป็นเทคนิคการเล่นเปียโนป๊อบที่จำเป็นที่สุดใน 10 ข้อที่ครูกล่าวถึงเลยก็ว่าได้ค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่เรียนคลาสสิค การเล่น Block Chord ก็มีความจำเป็นไม่แพ้กันค่ะ

Block Chord คือการกดคอร์ดทั้งหมดพร้อมกัน โดยการเล่นบล็อคคอร์ดนั้นเพื่อนๆจะต้องเล่นแบบ Inversion (การพลิกกลับคอร์ด) ด้วย เพราะเวลาที่เราเล่นเพลงเราจะต้องเจอการกดคอร์ดหลากหลายแบบมากดังนั้นเราจึงต้องฝึกให้ครอบคลุมค่ะ

ตัวอย่างการฝึกบล็อคคอร์ดในคีย์ Major และ minor

เวลาเพื่อนๆฝึกให้ฝึกแค่จากห้องที่ 1-4 นะคะ ในห้องที่ 5- 10 นั้นจะเป็นวิธีการกดคอร์ดอื่นๆนอกเหนือจากคอร์ด C และ Cm ซึ่งเราจะนำคอร์ดทุกคอร์ดมาฝึกแบบห้องที่ 1-4 ค่ะ

เพื่อนๆสามารถดาวน์โหลดเพื่อซ้อม Block Chord ได้ที่นี่ค่ะ การเล่น Block Chord และ ฺBroken Chord Major key และสามารถดูวิธีการเปลี่ยนคอร์ดให้เร็วได้ที่ เล่นเปียโนได้ใน 10 วัน เรียนฟรี 2 บทเรียนค่ะ

6. ฝึกเล่นเปียโนด้วยเทคนิค Broken Chords (กดคอร์ดแยกทีละตัว)

การเล่น Broken Chord นั้นจะช่วยให้เพื่อนๆเล่นเปียโนในเพลงที่ใช้คอร์ดแบบวิ่งๆได้เร็วขึ้นค่ะ และในเปียโนป๊อบเพื่อนๆยังสามารถนำ Broken คอร์ดมาใส่ใน Intro หรือ Outro เพื่อให้เพลงมีความน่าสนใจมากขึ้นและฟังดูหรูหรามากขึ้นด้วยค่ะ ตัวอย่างการฝึก Broken Chord ในคีย์ Major และ minor

เวลาเพื่อนๆฝึกให้ฝึกแค่จากห้องที่ 1-4 นะคะ ในห้องที่ 5- 10 นั้นจะเป็นวิธีการกดคอร์ดอื่นๆนอกเหนือจากคอร์ด C และ Cm ซึ่งเราจะนำคอร์ดทุกคอร์ดมาฝึกแบบห้องที่ 1-4 ค่ะ

เพื่อนๆสามารถดาวน์โหลดเพื่อซ้อม Broken Chord ได้ที่นี่ค่ะ โน้ต Block Chord และ Broken Chord minor key

7.ฝึกเปียโนด้วยการเล่น Arpeggio

การเล่น Arpeggio หรือ อาร์เพจจิโอ นั้นก็เป็นหัวใจหลักของการเล่นเปียโนเช่นเดียวกับสเกล อาร์เพจจิโอนั้นก็จะมีลักษณะเหมือนกับคอร์ดแต่จะเล่นต่อเนื่องกันไปตั้งแต่ 1 octave ไปจนถึง 4 octave วิธีการฝึกเพื่อนๆก็เริ่มฝึกช้าๆโดยเราจะเน้นทุก 3 จังหวะค่ะ (เน้นตัวแรกของกลุ่มจังหวะ)

การใช้นิ้วที่มือซ้ายของอาร์เพจจิโอนั้นจะมีความแตกต่างในแต่ละคีย์ดังนี้ค่ะ คีย์ C, F, G, และทุกคีย์ minor จะใช้นิ้วตามตัวอย่างด้านบน คีย์ D, E, A, B เราจะเปลี่ยนนิ้ว 4 เป็นนิ้ว 3 ดังตัวอย่างด้านล่างค่ะ

สำหรับการเล่นอาร์เพจจิโอ เราจะเล่นทุกคีย์เหมือนเดิมนะคะ โดยคีย์อื่นๆดูคอร์ดได้จากตัวอย่างในข้อ 6 ค่ะ สำหรับอาร์เพจจิโอนั้นเพื่อนๆควรต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอ ถ้าอยากเล่นเปียโนเก่งไม่ควรข้ามเทคนิคข้อนี้เด็ดขาดค่ะ

เพื่อนๆสามารถดาวน์โหลดโน้ต Arpeggio ได้ที่ โน้ต Arpeggio1 และ Arpeggio 2 ค่ะ

8. ฝึกเล่นเปียโนด้วยเทคนิค Rhythmic Pattern

เทคนิคการเล่น rhythmic pattern นั้นเป็นเทคนิคที่จะทำให้เพื่อนๆเล่นท่อนที่เร็วๆได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะค่ะ เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาเวลาที่ต้องเล่นเพลงเร็วๆ ไม่ว่าจะมีการไล่โน้ตไปมาแบบสเกลหรืออาร์เพจจิโอหรือโน้ตอะไรก็ตามที่เขียนด้วยความเร็วตั้งแต่เขบ็จสองชั้นขึ้นไป บางครั้งเราอยากจะเล่นเร็วแต่มันก็ไม่เป็นดั่งใจ บางครั้งเราเล่นเร็วได้แต่เราก็เล่นบางโน้ตไม่ชัดหรือจังหวะรวนเพราะนิ้วไม่แข็งแรงพอ ถ้าเพื่อนๆมีปัญหาเหล่านี้เราจะมาฝึกการเล่นแบบ rhythm pattern กันค่ะ

การฝึก rhythmic pattern นั้นเพื่อนๆสามารถนำไปใช้ได้กับเทคนิคทั้งหมดที่ครูได้กล่าวไว้ข้างต้นเลย สามารถเล่นร่วมกับสเกล, อาร์เพจจิโอ, block chord, broken chord, โดยวิธีการเล่นนั้นเราจะเปลี่ยนจังหวะทั้งหมด 2 แบบได้แก่

  1. ยาว……สั้นยาว……..สั้นยาว…….สั้นยาว……
  2. สั้นยาว……..สั้นยาว……สั้นยาว…..สั้นยาว……

จากตัวอย่างด้านบนเรานำ rhythmic pattern มาใช้กับสเกล C Major โดยวิธีการฝึกมีดังนี้ค่ะ เวลาที่เล่นโน้ตยาวให้แช่นานกว่าจังหวะจริงเล็กน้อย (โน้ตยาวคือโน้ตที่เป็นตัวเขบ็จ1 ชั้นประจุด) เวลาที่เล่นโน้ตสั้น (โน้ตเขบ็จ 2 ชั้น) ให้เล่นสั้นมากๆ เพื่อนๆจะต้องฝึกเล่นแบบที่ 1 ประมาณ 7-10 รอบจนคล่องและต่อด้วยแบบที่ 2 อีก 7-10 รอบค่ะ เราจะฝึกแบบนี้วันละประมาณ 3-5 เซ็ตค่ะ

กฏเหล็กในการฝึกแบบฝึกหัดนี้คือ เวลาฝึกนิ้วต้องโค้งสวยและให้เริ่มเล่นจากช้าๆและต้องระวังอย่าให้โน้ตผิด เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเล่นคล่องแต่จะเล่นโน้ตผิดนะคะ หรือถ้าเล่นผิดแบบที่ไม่ซ้ำกันสักรอบการฝึกด้วยวิธีนี้ก็จะไม่ได้ผลเลยค่ะเพราะฉะนั้นต้องระวังมากๆค่ะ อีกอย่างที่สำคัญมากคือเพื่อนๆจะต้องซ้อมติดๆกันทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ค่ะ

ถ้าเพื่อนๆเจอท่อนไหนในเพลงที่เล่นไม่ได้ก็ให้แยกออกมาฝึกด้วยเทคนิคนี้ รับรองได้ผล 100 % ค่ะ

เพื่อนๆสามารถดาวน์โหลดโน้ตได้ที่ rhythmic pattern หากสนใจการฝึกให้เล่นเปียโนให้เล่นได้เร็วปรื๋อลองเช็คได้ที่ youtube ที่ครูสอนไว้ด้านล่างค่ะ

9. ฝึกเทคนิคการเล่นเปียโนจากแบบฝึกหัด Hanon

สำหรับ Hanon นั้นเป็นพื้นฐานที่นักเรียนเปียโนทุกคนต้องเรียนค่ะ แบบฝึกหัด Hanon นั้นจะเต็มไปด้วยเทคนิคที่สำคัญในการเล่นเปียโน ในช่วงบทที่ 1-38 นั้นจะเป็นการฝึกนิ้วที่แตกต่างกัน บางบทจะฝึกนิ้ว 5 บางบทฝึกนิ้ว 3-4 ซึ่งสำหรับนักเรียนที่อยู่ในระดับต้นควรจะฝึกทั้ง 38 บท และในบทที่ 39 เป็นต้นไปจะเป็นสเกลและอาร์เพจจิโอ ซึ่งเพื่อนๆก็ควรจะฝึกเช่นกัน หลังจากสเกลและอาร์เพจจิโอแล้วบทฝึกจะเพิ่มความยากขึ้นมากๆ มีเทคนิคทุกอย่างที่จำเป็นในการเล่นเปียโน ถ้าเพื่อนๆเรียนในระดับต้นอาจจะยังไม่ต้องฝึกบทหลังจากสเกลและอาร์เพจจิโอก็ได้เพราะจะเป็นเทคนิคในระดับกลางขึ้นไปค่ะ บทสุดท้ายนั้นยากมหาโหด ต้องใช้ความแข็งแกร่งของนิ้วเป็นอย่างมากถึงจะสามารถเล่นได้จบค่ะ ตอนครูเรียนอาจารย์สั่งให้เล่น Hanon ทั้งเล่มตั้งแต่ต้นจนจบทุกวัน โหดมากๆเลยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งเริ่มเรียนก็อาจจะเริ่มฝึกที่ 10 บทแรกก่อนนะคะจะได้ไม่รู้สึกว่าหนักจนเกินไป จากนั้นก็พยายามเล่นให้ได้อย่างน้อย 20 บทค่ะและพยายามฝึกให้ได้ทุกวัน เทคนิคเราก็จะดีขึ้นค่ะ

ในการเล่น Hanon นั้น สิ่งสำคัญคือเพื่อนๆจะต้องวางนิ้วให้โค้งและเวลาเล่นจะต้องยกนิ้วสูงๆค่ะเพื่อที่จะได้ฝึกกล้ามเนื้อแต่ละนิ้ว และนอกจากนี้เราควรจะเล่นให้เร็วด้วยเพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ได้ประโยชน์ที่สมบูรณ์ค่ะ เพื่อนๆสามารถนำเทคนิค rhythmic pattern ที่ครูแนะนำไว้ในข้อ 8 มาใช้ฝึกกับ Hanon แต่ละบทก็ได้ค่ะจะได้เพิ่มความแข็งแรงของนิ้วขึ้นไปอีก สรุปแล้วหนังสือ Hanon เล่มนี้ควรมีไว้ในครอบครองมากๆเลยค่ะ

10. ฝึกเทคนิคการเล่นเปียโนจากแบบฝึกหัด Cherzny

แบบฝึกหัด Cherzny อ่านออกเสียงภาษาไทยว่า “เชอร์นี” เป็นหนังสืออีกเล่มที่เพื่อนๆควรมีไว้ในครอบครองเช่นกัน Cherzny นั้นมีหลายบทแต่บทที่ได้รับความนิยมมากๆคือ op. 299 และ op.599 ในการฝึกแบบฝึกหัด Cherzny นั้นเหมาะสำหรับนักเรียนระดับต้นและระดับกลาง เป็นการวางพื้นฐานการเล่นเพลงยากๆอย่างเพลงของ โชแปง (Chopin) รัคมานินอฟ (Rachmaninov) หรือ ลิซท์ (Liszt) เนื่องจากแบบฝึกหัด Cherzny นั้นประกอบไปด้วยสเกล อาร์เพจจิโอและคอร์ด ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการประพันธ์เพลงคลาสสิค ดังนั้นหากเพื่อนๆยอมฝึก Cherzny ก็จะเป็นพื้นฐานที่สามารถนำไปต่อยอดในการเล่นเพลงยากๆของนักประพันธ์ที่กล่าวมาข้างต้นได้

ในการฝึกเทคนิคของ Cherzny นั้นจะมีความแตกต่างจาก Hanon เพราะ Hanon นั้นจะฝึกแบบเครื่องจักร จะไม่มีทำนองที่ไพเราะเพื่อดึงดูดใจให้เราฝึก แต่ Cherzny นั้น เพลงมีแนวทำนองที่ไพเราะ ฟังแล้วดูเป็นเพลงที่น่าเล่น ในแต่ละแบบฝึกหัดเพื่อนๆก็จะได้ฝึกเทคนิคที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น การแยกประสาท การเล่นทำนองให้เป็น Legato การคอนโทรลน้ำหนักของมือขวาและมือซ้าย หลายๆครั้งน้ำหนักการเล่นของทั้งสองมือจะไม่เท่ากัน การเล่น articutation (ความสั้น-ยาว) วิธีการกดในลักษณะต่างๆ ซึ่งเพื่อนๆจะได้ฝึกสิ่งเหล่านี้ไปพร้อมๆกับการแสดงความรูสึกในการเล่นด้วย ฟังแล้วอยากเล่นเลยใช่มั้ยคะ จัดไปค่ะเล่มนี้ดีจริงๆค่ะ

ถ้าจะุถามว่าทั้ง 10 เทคนิคที่ครูกล่าวมาทั้งหมด จำเป็นจะต้องฝึกทั้งหมดไหม คำตอบคือจำเป็นและไม่จำเป็นค่ะ ถ้าเราอยากเล่นเปียโนเก่งก็ควรฝึกทั้ง 10 ข้อที่ครูแนะนำมาค่ะ แต่ถ้าเราอยากเล่นเปียโนเพื่อความเพลิดเพลิน อาจจะเลือกฝึกเป็นบางอย่างก็ได้ค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่เรียนเปียโนป๊อบหรือเปียโนคลาสสิคหากไม่มีเวลาซ้อมมาก ก็ให้เลือกซ้อม สเกลแบบ Parallel, อาร์เพจจิโอ, Block Chord, Broken Chord ค่ะ ถ้าเรียนเปียโนคลาสสิคจะต้องเพิ่ม Hanon กับ Cherzny ด้วยค่ะ

เอาล่ะค่ะ ครูก็หวังว่าเพื่อนๆจะได้ความรู้ในการเพิ่มเทคนิคในการเล่นเปียโน อย่าอ่านอย่างเดียวนะคะ ดาวน์โหลดกันไปซ้อมเลยค่ะ พบกันใหม่กับบทความหน้าค่ะ