ซื้อเปียโนไฟฟ้า Yamaha รุ่นไหนดี- ครูสอนเปียโนตอบเอง

เปียโนไฟฟ้าของ Yamaha มีให้เลือกหลายรุ่นซึ่งคุณภาพก็จะแตกต่างกันไป วันนี้เราจะมาดูกันว่าเปียโนไฟฟ้ารุ่นไหนเหมาะกับเรา และแบบไหนเราควรซื้อเอาไว้ใช้ฝึกซ้อมค่ะ

เปียโนไฟฟ้ารุ่น Clavinova เหมาะกับคนที่อยากได้เปียโนไฟฟ้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเปียโนอะคุสติกมากๆและมีงบประมาณไม่จำกัด เลือกเปียโนไฟฟ้ารุ่น P series ถ้าหากเพิ่งเริ่มเรียนเปียโน เพราะราคาไม่แพงและสามารถใช้ได้จนถึงระดับกลาง ถ้ามีงบประมาณสัก 40,000 ขึ้น เลือกรุ่น Arius ก็จะได้เปียโนที่เสียงดีเหมือนกับแกรนด์เปียโนและใช้ได้ยาวๆ

สำหรับเพื่อนๆที่กำลังเริ่มเรียนเปียโน สามารถอ่านบทความ คู่มือการเรียนเปียโนสำหรับผู้ใหญ่ หรือลองเช็คคอร์สเรียน “เล่นเปียโนป๊อบได้ใน 10 วัน” ไม่มีพื้นฐานก็เล่นได้ภายใน 10 วันเพราะครูมีวิธีการสอนแบบใหม่ที่เราไม่ต้องอ่านโน้ต จังหวะหรือเล่นสเกลแบบการเรียนเปียโนสไตล์ดั้งเดิม เราจะเริ่มเล่นเพลงป๊อบทันทีตั้งแต่เริ่มเรียนเลยค่ะ หากนักเรียนสนใจสามารถทดลองเรียนฟรีได้ 2 บทแรก คลิกเรียนฟรีได้ ที่นี่ ค่ะ

เปียโนไฟฟ้า Yamaha/ราคา	จุดเด่น	เหมาะกับใคร
1.รุ่นClavinova มีรุ่นดังนี้	-เหมือนเปียโนอะคุสติกมากที่สุด ทั้งเรื่องทัชชิงและเสียง	-คนที่เรียนเปียโนด้วยตัวเอง -เรียนเปียโนระดับต้น- กลางค่อนสูง -คนที่อยากได้ฟังก์ชันของเปียโนไฟฟ้าแต่ให้ความรู้สึกเหมือนเปียโนอะคุสติก -มีงบประมาณในการซื้อเปียโนเยอะ
CLP 52,000-149,000	-มีระบบไฟสตรีมที่แสดงไฟตามลำดับ จะช่วยให้รู้ว่าต้องกดแป้นคีย์ใดต่อไป -เชื่อมต่อกับ Smart Pianist appได้	–
CSP 120,500-200,000	-สร้างโน๊ตเพลงที่เพื่อนๆชื่นชอบเพื่อร้องร่วมกับเปียโนได้ทันที – สามารถเชื่อมต่อกับ Smart Pianist app	–
CVP 229,000	-เสียงดนตรีประกอบอัตโนมัติ -สามารถเชื่อต่อกับไมโครโฟนได้	–
2. รุ่น Arius มีรุ่นดังนี้	-เชื่อมต่อกับ Smart Pianist appได้ – เสียงเหมือนแกรนด์เปียโน -ทัชชิ่งมีน้ำหนักดี มีแรงต้านคล้ายกับเปียโน อะคุสติกแต่น้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย	– คนที่อยากได้อารมณ์แบบเล่นเปียโนอะคุสติกแต่ยังต้องการฟังก์ชั่นของเปียโนไฟฟ้า – มีงบประมาณกลางๆ
YDP-165 56,900	– ให้ความรู้สึกเหมือนเปียโนอะคุสติกมากกว่า YDP-144 และเสียงเพราะกว่า -เลียนแบบเปียโนแกรนด์คอนเสิร์ตระบบ CFX ขนาด 9 ฟุต จะมีเสียงสูงและเสียงเบสที่กังวานและทรงพลัง ซึ่งจะรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้เสียงพุ่งออกไปจนสุดคอนเสิร์ตฮอลล์	–
YDP-145 41,900	– ให้ความรู้สึกเหมือนเปียโนอะคุสติกแต่ไม่เท่ากับ YDP -165 – เสียงเหมือนกับแกรนด์เปียโนใกล้เคียงกับรุ่น YDP-165	–
3. รุ่น P series มีรุ่นดังนี้	– มีคีย์ 88 คีย์ – น้ำหนักคีย์แบบถ่วงน้ำหนัก (weighted key) -เสียงค่อนข้างดี – พกพาได้เพราะตัวคีย์บอร์ดไม่ติดกับบอดี้	– คนที่อยากได้เปียโนไฟฟ้าที่สามารถพกพาได้ – อยากได้คีย์ครบ 88 คีย์และุถ่วงน้ำหนัก – ไม่เน้นว่าต้องเหมือนเปียโนอะคุสติกมากๆ – นักเรียนระดับต้น-กลาง -มีงบจำกัด
P-125 32,300	– มีเสียงให้เลือกมากกว่ารุ่น P-45 – มีเสียงเบสและกลองที่สมจริงและมีจังหวะให้เลือกหลายสไตล์ – polyphony 192 -เชื่อมต่อกับ smart pianist appได้	– เหมาะกับนักเรียนที่เริ่มต้นเรียนเปียโนจนถึงระดับกลาง
P-45 23,000 – 24,000	– polyphony น้อยกวามีเพียง 64 – ไม่มีระบบ smart pianist app	-เหมาะกับนักเรียนที่เริ่มเรียนเปียโนจนถึงระดับกลาง
4. เปียโนไฟฟ้า รุ่นแกรนด์เปียโนแบบพกพา	– เลียนแบบเสียงและสัมผัสของแกรนด์เปียโนระบบ CFX – มีหน้าจอบนคีย์บอร์ด ไม่ต้องเชื่อมต่อกับแอพแต่สามารถกดเลือกเมนูได้ที่หน้าจอเลย -ดนตรีประกอบมีให้เลือกหลายสไตล์ -ไม่มีระบบ smart pianist app	– คนที่อยากได้อารมณ์แบบเปียโนอะคุสติก – อยากได้ความรู้สึกเหมือนเล่นกับวงดนตรีสด – มีงบประมาณกลางๆ
GX-670 48,500	– มีระบบดนตรีประกอบอัตโนมัติแบบขั้นสูง มีดนตรีประกอบให้เลือกหลายสไตล์ ทำให้รู้สึกเหมือนกับเล่นกับวงดนตรีสด – เลียนแบบการสั่นสะเทือนของเสียงในแกรนด์เปียโน	–
DGX -660 38,900	-สามารถเชื่อมต่อไมโครโฟนเข้ากับเปียโนไฟฟ้าได้โดยตรงเลย	–
DGX-650	– มีระบบดนตรีประกอบแบบอัตโนมัติ	–

คำแนะนำ

ถ้าถามว่าครูจะแนะนำเปียโนไฟฟ้ารุ่นไหนให้นักเรียน ครูจะแนะนำเปียโนไฟฟ้ารุ่น p-125 ค่ะ เพราะราคาเหมาะกับการเรียนในระดับต้น-ระดับกลาง น้ำหนักคีย์ก็หนักพอสมควรแม้จะไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนกับเปียโนอะคุสติกมากเท่ากับรุ่นใหญ่ๆ แต่เสียงก็คล้ายคลึงกับเปียโนอะคุสติกมากค่ะ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆให้เลือกเล่นได้ค่อนข้างเยอะ หากนักเรียนสนใจซื้อเปียโนรุ่นนี้ ราคาพร้อมกับอุปกรณ์ครบเซ็ต (เก้าอี้, เพดเดิล) จะอยู่ที่ 32,000 บาท ซึ่งครูแนะนำว่าควรซื้อพร้อมอุปกรณ์ครบเซ็ตค่ะ สนใจสามารถกดที่ลิงค์ เปียโนไฟฟ้ารุ่น p-125 สีขาว หรือ เปียโนไฟฟ้ารุ่น p-125 สีไม้เข้ม ได้เลย แต่หากเพื่อนๆต้องการประหยัดก็สามารถซื้อแบบไม่ครบเซ็ต ราคาจะอยู่ประมาณ 29,900 บาท สนใจสามารถกดดูได้ที่ลิงค์ เปียโนไฟฟ้ารุ่น p-125 ได้เลยค่ะ

อีกรุ่นที่ครูมักแนะนำนักเรียนให้ใช้ก็คือ Yamaha p-45 รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ต่ำลงมาจากรุ่น P-125 ในความรู้สึกของครูเวลาที่เล่นทั้งสองรุ่นนี้ เสียงและทัชชิงจะเหมือนกัน แตกต่างกันตรงที่ P-125 มีฟังก์ชั่นต่างๆเพิ่มขึ้นมาทำให้มีสีสันในการเล่นมากขึ้น แต่เราคาของ P-45 นั้นจะถูกกว่า หากนักเรียนสนใจซื้อเปียโนรุ่นนี้สามารถกดที่ลิงค์ เปียโนไฟฟ้า Yamaha P-45 ได้เลยค่ะ ราคาอยู่ประมาณ 24,900 บาทค่ะ

ถ้าถามครูว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นโปรด ก็คงจะเป็นรุ่น YDP-165 (YDP 164 ก็ดีเช่นกัน) เพราะเสียงเพราะมากๆ เหมือนกับเสียงของแกรนด์เปียโน ทัชชิงก็ดีพอๆกับเปียโนอัพไรท์ แต่เนื่องจากรุ่นนี้ก็มีราคาแพงอยู่พอสมควร ครูเลยจะไม่แนะนำให้กับนักเรียนของครู แต่ถ้าเพื่อนๆไม่ติดปัญหาเรื่องของงบประมาณครูก็จะบอกให้เลือกรุ่นนี้เลยค่ะ สนใจคลิกได้ที่ เปียโน Yamaha รุ่น YDP-165

ครูได้ใช้เปียโนรุ่นนี้ในการอัดเพลงที่ครูลงใน youtube หลายเพลงเลยทีเดียว เพราะอัดง่ายและให้เสียงดีมากๆ แต่ด้วยความที่ครูต้องการลุคของแกรนด์เปียโนครูก็เลยมาอัดวีดีโอที่เล่นกับแกรนด์เปียโนอีกที แต่ใช้เสียงของเปียโนไฟฟ้าค่ะ เพื่อนๆจะสังเกตเห็นได้ว่าตอนที่ภาพวีดีโอถ่ายจากมุมสูงที่เน้นมือนั้นจะมีสายของหูฟังอยู่ทางด้านซ้าย (ครูแอบเขียนชื่อเพลงบังไว้ด้วย) ซึ่งก็เป็นเปียโน YDP -165 ที่ครูใช้อัดเสียงนั่นเองค่ะ

นักเรียนสามารถฟังเสียงของ Yamaha YDP 165 ได้ที่ลิงค์ยูทูปเพลงที่ครูเล่นจากด้านล่างได้เลยค่ะ

1. เปียโนไฟฟ้า Yamaha รุ่น Clavinova

เป็นเปียโนที่ทำอย่างปราณีตที่สุดเมื่อเทียบกับเปียโนไฟฟ้าซีรีส์อื่นๆของ Yamaha เพราะว่าเปียโนไฟฟ้าซีรีส์นี้ทำเลียนแบบได้เหมือนเปียโนอะคุสติกมากๆ ทั้งเรื่องของทัชชิง เวลาที่เรากดลงไปบนคีย์ เราจะรู้สึกว่ามีแรงต้านกลับมาเหมือนกับเปียโนอะคุสติกเลย เวลาที่เรากดคีย์ด้วยวิธีที่แตกต่างกันก็ให้เสียงตามลักษณะที่เรากด คีย์มีน้ำหนักที่พอๆกับเปียโนอะคุสติกแบบอัพไรท์ค่ะ คือเอาเป็นว่าเล่นแล้วรู้สึกสนุกเหมือนกับเล่นเปียโนอะคุสติกเลยค่ะ คือต้องอธิบายก่อนว่าครูเคยเล่นเปียโนไฟฟ้าหลายๆเครื่องมาแล้ว ทั้งที่โฆษณากันว่าเหมือนเปียโนอะคุสติกมากๆแต่พอเล่นแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่สำหรับรุ่นนี้แล้วเนี่ยไม่ผิดหวังเลยค่ะ

ในเรื่องของเสียงก็ทำได้ดีมากเช่นกัน เพราะว่าเสียงมีความไพเราะเทียบได้กับเสียงของแกรนด์เปียโนเลยทีเดียว (แกรนด์เปียโนคือ เปียโนที่มีขนาดใหญ่ วางในลักษณะแนวนอน ใช้สำหรับแสดงคอนเสิร์ตในฮอลล์) เราไปดูกันว่าเปียโนไฟฟ้าซีรี่ย์นี้มีทั้งหมดกี่รุ่นและราคาเท่าไหร่กันบ้างค่ะ

ซีรีส์ CLP

CLP 745 ราคา 87,000
CLP 735 ราคา 65,000
CLP 725 ราคา 52,000
CLP 765 ราคา 149,000 รุ่นนี้เป็นดิจิตอลแกรนด์เปียโน

รุ่นนี้มีเสียงและทัชชิงที่ดีมาก เหมาะสำหรับผู้ที่อยากได้ความรู้สึกของเปียโนอะคุสติก มี smart pianist app เหมือนกับรุ่นสูงๆรุ่นอื่น และก็เหมาะกับผู้ที่เรียนรู้ด้วยตัวเองเพราะจะมีเทคโนโลยีช่วยซัพพอร์ทให้ฝึกได้ง่ายขึ้น ราคาค่อนข้างแรงอยู่ค่ะ สำหรับราคานี้เพื่อนๆสามารถซื้อเปียโนอะคุสติกมือสองได้เลย แต่ถ้าหากว่าต้องการฟังก์ชั่นของ smart pianist ก็ควรซื้อเปียโนไฟฟ้าค่ะ

• สามารถเชื่อมต่อกับ Smart Pianist app และมีระบบไฟสตรีมที่แสดงไฟตามลำดับจะช่วยให้เพื่อนๆรู้ว่าต้องกดแป้นคีย์ใดต่อไป
• คีย์ตอบสนองการกด รู้สึกเหมือนกับมีแรงดันกลับมาเวลาเล่น ให้ความรู้สึกเหมือนกับเปียโนอะคุสติกมาก
• เสียงคล้ายแกรนด์เปียโนมากๆ

ซีรีส์ CSP

สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ ที่นี่

CSP 295 ราคาประมาณ 196,000 สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ ที่นี่

CSP 170 ราคาประมาณ 165,000

CSP 150 ราคาประมาณ 120,500-138,000

ใช้แอพ Smart Pianist ในการสร้างโน๊ตเพลงที่เพื่อนๆชื่นชอบเพื่อร้องร่วมกับเปียโนได้ทันที นอกจากนี้ก็ยังมีระบบไฟสตรีมที่แสดงไฟตามลำดับเหมือนกับซีรีส์ CLP ค่ะ

ซีรีส์ CVP

CVP-809 ราคา 299,000

CVP-805 ราคา 229,000

มีระบบ Automatic accompanist (เสียงดนตรีประกอบอัตโนมัติ) และสามารถเชื่อมต่อกับไมโครโฟนได้ด้วย เรียกว่ามีเครื่องเดียวก็สามารถเล่นเองร้องเอง แถมมีแบคกิ้งแทรคเหมือนกับเล่นเป็นวงเลยค่ะ

คำแนะนำ สำหรับครูถ้านักเรียนมาถามว่าอยากจะซื้อเปียโนไฟฟ้า Yamaha รุ่น Clavinova ดีมั้ย ครูจะถามก่อนว่าอยากจะเอาไปทำอะไร ถ้าเอาไว้ซ้อมเฉยๆแทนเปียโนอะคุสติกก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเปียโนไฟฟ้าราคาแพงถึงขนาดนี้ค่ะ ถ้าอยากได้จริงๆ ซีรีส์ CLP ก็เพียงพอแล้ว เพราะถ้าขยับไปซีรีส์อื่น ราคาใกล้เคียงกับเปียโนอะคุสติกมือ 2มาก แบบนี้ก็สู้ซื้อเปียโนอะคุสติกดีกว่าค่ะ แต่ถ้าต้องการใช้อัดเพลงไม่ว่าจะเอาไว้ลงยูทูป จะเอาไว้ฟังเฉยๆหรืออยากจะได้เปียโนที่มีลูกเล่นเยอะๆ อย่างเล่นแล้วมีแบคกื้งแทรคประกอบ และเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ก็มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์มากมายหลายอย่างเลยทีเดียวค่ะ

2. เปียโนไฟฟ้า Yamaha รุ่น Arius

สำหรับเปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ ครูขอบอกเลยว่าชอบมากๆค่ะ มากถึงขนาดว่าครูเป็นเจ้าของอยู่ 1 เครื่องเลย รุ่นที่ครูซื้อคือรุ่น YDP 165 ครูเลือกรุ่นนี้เพราะครูอยากได้เปียโนไฟฟ้าที่เสียงดีและทัชชิงดีแบบเหมือนกับเปียโนอะคุสติก ก่อนซื้อครูก็ได้ดูรีวิวเกี่ยวกับเปียโนไฟฟ้าเยอะมากๆแล้วก็ไปสะดุดกับรุ่นนี้ค่ะ เพราะฟังเสียงแล้วแทบแยกไม่ออกเลยว่าเป็นเปียโนไฟฟ้าหรือเปียโนอะคุสติก

คร้งแรกที่ครุได้เปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้มา ก็ช็อคกับความหนักค่ะ ไม่ใช่น้ำหนักของคีย์แต่น้ำหนักของเปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ค่ะ แบบว่าหนักมากๆๆ คือถ้าเพื่อนๆจะซื้อมาแล้วแบบว่าอยากจะเอาไปเล่นตามสถานที่ต่างๆล่ะก็ เซย์บายกับรุ่นนี้ได้เลยค่ะ การประกอบเครื่องใช้เวลานานพอสมควรและหลังจากประกอบเสร็จแล้ว ท้าดา!!!! มันเหมือนเปียโนอัพไรท์หลังหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ

ครั้งแรกที่ครูเล่น โอ้โหแบบว่าประทับใจกับเสียงมากๆ มันเสียงดีมากๆเลยค่ะ แบบว่าอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าถ้าหลับตาฟังคือแยกไม่ออกเลยว่าเป็นเปียโนจริงหรือเปียโนไฟฟ้า รุ่นนี้ Yamaha ตั้งใจทำเลียนแบบให้เสียงเหมือนกับแกรนด์เปียโนค่ะ และเขาก็ทำได้สำเร็จจริงๆ ถ้าครูเล่นแบบกดน้ำหนักเบาๆ เสียงก็จะฟังดูไกลๆ เราสามารถเล่นแล้วใส่อารมณ์และความรู้สึกได้ ซึ่งเปียโนไฟฟ้ารุ่นต่ำๆจะทำไม่ได้ค่ะ

เรื่องของทัชชิงนั้นถือว่าใช้ได้เลย ค่อนข้างคล้ายกับเปียโนอะคุสติกมากๆ คือถ้าครูเล่นเพลงป๊อบก็ไม่รู้สึกแตกต่างเลย แต่ถ้าเล่นเพลงคลาสสิคยากๆ ก็จะรู้สึกว่าคีย์เบาไปนิด แต่มันก็ทำให้เล่นเพลงเร็วๆที่ต้องวิ่งเยอะๆอย่าง Fantasia Impromptu ของ Chopin ได้ง่ายขึ้นค่ะ แต่ถ้าซ้อมกับเปียโนไฟฟ้าแล้วไปเล่นแกรนด์เปียโนของจริงอาจจะเล่นได้ไม่ค่อยดี เพราะคีย์มันเบากว่าเล็กน้อยค่ะ

เปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้จะเลียนแบบเปียโนแกรนด์คอนเสิร์ตระบบ CFX ขนาด 9 ฟุต จะมีเสียงสูงและเสียงเบสที่กังวานและทรงพลัง ซึ่งจะรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้เสียงพุ่งออกไปจนสุดคอนเสิร์ตฮอลล์ ซึ่งระบบ CFX ได้เล่นโดยผู้ชนะการแข่งขันโชแป็งระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงในปี 2010 และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแกรนด์คอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบัน

รุ่นนี้ก็สามารถใช้ smart pianist app ได้เหมือนกับรุ่น Clavinova ค่ะ และมีระบบ Graded Hammer Standard (GHS) จึงให้ความรู้สึกดั่งเล่นเปียโนอะคูสติก ตั้งแต่ความรู้สึกที่หนักหน่วงในเสียงต่ำสุดไปจนถึงความรู้สึกที่นุ่มนวลในอ็อกเทฟที่สูงขึ้น ส่วนเรื่องราคาก็สบายกระเป๋ากว่าเยอะค่ะ รุ่นนี้มี 2ซีรีส์คือ

YDP -165 ราคา 53,100 สนใจรุ่นนี้คลิกดูรายละเอียดได้ ที่นี่

https://youtu.be/_UgdfXgOtCk

ตัวอย่างเพลงที่ครูใช้เปียโน Yamaha YDP-165 ในการอัดเสียง

YDP- 144 ราคา 41,900 สนใจดูรายละเอียดคลิกได้ ที่นี่

คำแนะนำ ถ้าเพื่อนๆอยากได้เปียโนไฟฟ้าที่ให้เสียงและความรู้สึกเวลาเล่นเหมือนกับเปียโนอะคุสติก ครูก็แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ ราคาก็ไม่ถึงกับแพงมาก เพราะราคานี้เพื่อนๆซื้อเปียโนอะคุสติกมือ 2 ไม่ได้ค่ะ ดังนั้นมันก็เลยเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ค่ะ แุถมเพื่อนๆยังสามารถใช้ลูกเล่นที่ทาง Yamaha ให้มากับ smart pianist app ด้วยค่ะ เอาไว้บทความหน้าครูจะมารีวิวรุ่นนี้กันอย่างละเอียดเลยนะคะ

3. เปียโนไฟฟ้า Yamaha รุ่น P Series

• P-125 ราคา 29,900 -33,000 สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ ที่นี่
• p-45 ราคา 24,900 สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ ที่นี่

สำหรับเปียโนไฟฟ้า Yamaha รุ่น P Series นั้นแต่ก่อนนี้จะมีหลายรุ่นมาก แต่ทางYamaha ยกเลิกการผลิตไปแล้วก็เลยจะเหลืออยู่แค่ 2 รุ่น ครูก็เคยเป็นเจ้าของอยู่ 2 รุ่นค่ะ คือรุ่น P-125 และรุ่น P-45 สำหรับข้อดีของเปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้คือ มันพกพาได้ค่ะ เพราะว่ามันจะรูปร่างเหมือนกับคีย์บอร์ดค่ะ และเราสามารถซื้อขาตั้งมาวางได้หรือว่าซื้อตัวบอดี้ที่เหมือนกับเปียโนอัพไรท์มาใส่ได้เช่นกัน แต่น้ำหนักก็จะหนักกว่าคีย์บอร์ดนะคะ ดังนั้นเวลาซื้อขาตั้งต้องเลือกที่รับน้ำหนักได้ค่อนข้างเยอะค่ะ

สำหรับทัชชิงของรุ่นนี้ เล่นแล้วไม่ได้ให้ความรู้สึกคล้ายกับเปียโนอะคุสติกสักรุ่นที่ไม่หนักมาก ถามว่าแล้วเราจะใช้สำหรับฝึกซ้อมเวลาที่เราเรียนเปียโนได้มั้ย เราใช้รุ่นนี้สำหรับเรียนเปียโนได้แน่นอนค่ะ ทัชชิงนั้นก็ถือว่าใช้ได้อยู่เพราะเป็นแบบ ถ่วงน้ำหนัก (weighted key) ซึ่งเวลากดก็มีน้ำหนักค่ะแต่มันจะกลวงๆกว่ารุ่นสูงๆเท่านั้นเองค่ะ ถ้าเราเรียนระดับต้นหรือระดับกลางครูก็จะแนะนำให้ซื้อเปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ค่ะ เพราะราคาถือว่าดีมากสำหรับคุณภาพที่ได้ค่ะ ถ้าเพื่อนๆไม่ได้เรียนเอกคลาสสิคเหมือนกับครูซึ่งจะต้องเล่นเพลงที่เทคนิคยากๆ เปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ก็ไม่มีปัญหาเลยค่ะ

เรื่องของเสียงถือว่าใช้ได้เลยค่ะ เสียงดีเล่นแล้วไพเราะ ถามว่าดีเท่ากับรุ่น Arius มั้ย แน่นอนว่าเสียงสู้รุ่น Arius ไม่ได้ค่ะ แต่เสียงก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรค่ะ เล่นแล้วก็ฟังดูดีเหมือนกับเปียโนอยู่ค่ะ ที่บ้านครูมี เปียโนไฟฟ้ารุ่น P-125 และรุ่น P-45 ซึ่งเขาบอกว่ารุ่น P-125 เสียงดีกว่า ซึ่งราคามันแพงกว่าค่ะ แต่ครูว่าเสียงและทัชชิงมันไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ค่ะ แต่ฟังก์ชั่นของเปียโนไฟฟ้า P-125 มีเยอะกว่าค่ะ รุ่น p-125 สามารถเชื่อมต่อกับ smart pianist app ได้ แต่รุ่น p-45 ทำไม่ได้ค่ะ ซึ่ง smart pianist app ก็มีฟังก์ชันสนุกๆให้เล่นเยอะมากเลย เอาไว้วันหลังครูจะมาเขียนเรื่อง smart pianist app ของ Yamaha ว่ามีทำอะไรได้บ้างนะคะ

คำแนะนำ ถ้าเพื่อนๆต้องการซื้อเปียโนไฟฟ้าเอาไว้ซ้อมหรือเอาไว้อัดเสียง จะทำยูทูปก็สามารถใช้รุ่นนี้ได้ค่ะ ราคาสบายกระเป๋า เผื่ออีกหน่อยเพื่อนๆอยากซื้อเปียโนอะคุสติกสักหลังหนึ่งก็จะได้ไม่เสียดายเงินค่ะ หรือถ้าจะใช้แบบยาวๆก็ได้เลยค่ะ ถ้าให้แนะนำว่ารุ่นไหนดีกว่าก็ต้องดูที่งบประมาณค่ะ และก็การใช้งานด้วย ถ้าซื้อไว้ซ้อมแทนเปียโนอะคุสติกเฉยๆและไม่ต้องการใช้ฟังก์ชันมากก็เลือกเป็นเปียโนไฟฟ้ารุ่น P-45 ก็ได้ค่ะ

4. เปียโนไฟฟ้ารุ่น แกรนด์เปียโนแบบพกพา

เราจะมาดูว่าฟังก์ชั่นของแต่ละรุ่นทำอะไรได้บ้าง วันนี้จะพูดถึง 3 รุ่นนี้นะคะ

รุ่นนี้จะเลียนแบบเปียโนแกรนด์คอนเสิร์ตระบบ CFX ขนาด 9 ฟุต ของ Yamaha จะมีเสียงสูงและเสียงเบสที่กังวานและทรงพลัง ซึ่งจะรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้เสียงพุ่งออกไปจนสุดคอนเสิร์ตฮอลล์ ซึ่งก็จะเหมือนกับรุ่น Arius ค่ะ

DGX-670 ราคา 48,500 สนใจสินค้าคลิกดูรายละเอียดได้ ที่นี่

• รุ่นนี้จะมีเสียงให้เลือกเยอะมากถึง 630 เสียงเลยทีเดียว ซึ่งจะมีเสียงเปียโนไฟฟ้า ออร์แกน เครื่องสายและเสียงสังเคราะห์
• มีระบบดนตรีประกอบอัตโนมัติหลายสไตล์มากๆ ทำให้สามารถร่วมเล่นกับ “นักดนตรี” ประเภทอื่นได้มากมาย ตั้งแต่วงคอมโบไปจนถึงบิ๊กแบนด์ ดนตรีประกอบอัตโนมัติมีให้เลือกถึง 263 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นร็อก, R&B และเพลงเต้นรำ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเราได้ไปเล่นในวงดนตรีแสดงสดเลยค่ะ

• เทคโนโลยี Virtual Resonance Modeling (VRM) ทำให้เวลากดคีย์แล้วปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเล่นเหมือนกับเปียโนอะคุสติก
• เลียนแบบเปียโนแกรนด์คอนเสิร์ตระบบ CFX ขนาด 9 ฟุต ของ Yamaha
• คีย์บอร์ดระบบ GHS (Graded Hammer Standard) แบบน้ำหนักคีย์เหมือนเปียโนอะคุสติก ให้เสียงและอารมณ์เหมือนกับเปียโนจริงๆ

DGX -660 ราคา 38,900

เปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้จะมีเสียงเปียโนอะคุสติกให้เพื่อนๆเลือกได้หลายแบบเลยค่ะ และเพื่อนๆก็ยังสามารถเชื่อมต่อไมโครโฟนเข้ากับเปียโนไฟฟ้าได้โดยตรงเลย และนอกจากนี้ก็ยังสามารถบันทึกเสียงผ่านสาย USB ได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอใหญ่ให้เพื่อนๆดาวน์โหลดโน้ตมาเล่นได้ด้วย

DGX -650

รุ่นนี้จะให้เสียงเหมือนกับเปียโนอะคุสติกค่ะ (อันนี้ที่เขาว่ามานะคะ รุ่นนี้ครูไม่เคยลอง) และก็มีดนตรีประกอบแบบอัตโนมัติค่ะ ส่วนเรื่องน้ำหนักคีย์ก็เป็นระบบ GHS (Graded Hammer Standard) ให้เสียงและอารมณ์เหมือนกับเปียโนจริงๆเช่นกันค่ะ

คำแนะนำ สำหรับรุ่นนี้ก็จะพยายามที่จะเลียนแบบให้เหมือนกับเปียโนอะคุสติกเช่นกันค่ะ จุดเด่นของรุ่นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่อของดนตรีประกอบที่มีให้เลือกหลายสไตล์มากๆ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากได้ฟังก์ชั่นและเสียงที่หลากหลาย และอยากจะเล่นแบบอารมณ์ว่าเรากำลังเล่นวงดนตรีสดอยู่ ก็จัดรุ่นนี้ไปเลยค่ะ