Author: Brandon Alsup

  • คอนเทอร์พอยท์สายพันธุ์ที่ 1 (1st Species Counterpoint) – พื้นฐานสำหรับสองเสียง

    คอนเทอร์พอยท์สายพันธุ์ที่ 1 (1st Species Counterpoint) – พื้นฐานสำหรับสองเสียง

    ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีการเขียนคอนเทอร์พอยท์สายพันธุ์ที่ 1 (1st species counterpoint) ใน 6 ขั้นตอน ผมยังมุ่งมั่นที่จะนำเสนอความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ “เหตุผล” บางประการของการฝึกฝนนี้ ทำไมนักดนตรีควรเรียนรู้คอนเทอร์พอยท์สายพันธุ์ที่ 1 (1st species counterpoint) คอนเทอร์พอยท์ (Counterpoint) เป็นพื้นฐานของการประพันธ์ดนตรีหลายเสียงในดนตรีตะวันตก (Western music polyphony) ซึ่งหมายถึงการใช้ทำนองหลายเส้นพร้อมกัน คอนเทอร์พอยท์สายพันธุ์ที่ 1 (1st species counterpoint) เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเริ่มเข้าใจและจัดการสองเสียงดนตรี มันเป็นวิธีการที่เป็นระบบในการสร้างทำนองที่สองจากทำนองหลัก การเรียนรู้คอนเทอร์พอยท์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการได้ยินการทำงานร่วมกันของช่วงเสียง (intervals) ในแนวดิ่งและการจัดการทำนองในแนวนอน ไม่ว่าคุณจะกำลังประพันธ์เพลงในสไตล์คลาสสิกหรือเขียนเพลงป๊อป คอนเทอร์พอยท์สามารถเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่พร้อมให้ใช้งานได้เสมอ คอนเทอร์พอยท์สามารถใช้เป็นวิธีในการสร้างไอเดีย หรือทำงานเพื่อพัฒนาชิ้นงาน ผมเชื่อว่ามันเป็นวิธีที่ดีในการสำรวจการสร้างสรรค์ดนตรี ในแบบที่การด้นสด (improvisation) และวิธีการประพันธ์อื่น ๆ อาจไม่สามารถทำได้ดีเท่า อย่าลืมดาวน์โหลดหนังสือแบบฝึกหัดคอนเทอร์พอยท์ฟรีเล่มนี้! บทความที่เกี่ยวข้อง ข้อกำหนดเบื้องต้นก่อนการเขียน: ช่วงเสียงสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ในคอนเทอร์พอยท์คืออะไร คอนโซแนนซ์ (Consonance) หมายถึงช่วงเสียงระหว่างโน้ตสองตัวที่ถือว่า “ไพเราะ” หรือเข้ากันได้ดี ช่วงเสียงที่ไม่สมบูรณ์ (Imperfect intervals)…

  • อะไรคือ Cantus Firmus Counterpoint? – มันช่วยพัฒนานักดนตรีที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร

    อะไรคือ Cantus Firmus Counterpoint? – มันช่วยพัฒนานักดนตรีที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร

    การเรียนรู้ counterpoint อาจดูเหมือนวิธีการสอนการแต่งเพลงที่ล้าสมัย แต่ผมเชื่อว่านี่คือทักษะที่นักแต่งเพลง นักเขียนเพลง และโปรดิวเซอร์ทุกคนควรมีในคลังทักษะของตน Cantus firmus แปลว่า “ทำนองที่ตายตัว” หมายถึงทำนองหลักที่ทุกเสียงอื่น ๆ จะยึดเป็นพื้นฐาน คิดว่ามันเป็นชั้นแรกในองค์ประกอบดนตรีที่มีหลายชั้น ในบทความนี้ ผมจะอธิบายว่า cantus firmus คืออะไร ทำงานอย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้หลักการเขียน cantus firmus และ counterpoint จะช่วยพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้อย่างไร ภาพรวมอย่างย่อของ Cantus Firmus วิธีการนี้มีการใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และใช้ในดนตรีศักดิ์สิทธิ์ โดยตลอดหลายศตวรรษ บทบาทของ cantus firmus เปลี่ยนจากการอยู่ในเสียงสูงสุดมาเป็นเสียงต่ำสุด จนกระทั่งถูกกำหนดให้อยู่ในเสียงกลาง เรียกว่า “tenor” (เทเนอร์มาจากภาษาละติน แปลว่า “การถือ” ซึ่งหมายถึงการที่มัน “ถือ” ดนตรีให้สมดุล) หยุดคิดสักครู่และพิจารณา: cantus firmus ได้ถูกใช้ในการสร้าง จัดระเบียบ และสอนดนตรีมานานกว่า 700 ปี! ข้อเท็จจริงนี้เพียงอย่างเดียวก็ควรดึงดูดความสนใจของนักดนตรีทุกคน…

  • หลุดพ้นจาก “Emptiness Machine”: ฟื้นคืนการเชื่อมโยงผ่านดนตรี

    หลุดพ้นจาก “Emptiness Machine”: ฟื้นคืนการเชื่อมโยงผ่านดนตรี

    ในยุคที่ความสำเร็จมักถูกวัดด้วยการทำงานให้ได้มากที่สุด สถานะ และความมั่งคั่ง หลายคนรู้สึกว่าบางอย่างในชีวิตนั้นขาดหายไป โดยเฉพาะเมื่อเราเริ่มเข้าสู่วัย 30 หรือ 40 ปี การทำงานหนัก การดูแลครอบครัว และการจัดการภาระหน้าที่ต่าง ๆ มักทำให้เรารู้สึกว่าเราหมดไฟ เราอาจจะยุ่งตลอดเวลา แต่กลับรู้สึกว่างเปล่า ใช้ชีวิตไปกับกิจกรรมที่ดูเหมือนจะไม่มีความหมายที่แท้จริง คำว่า “Emptiness Machine” ซึ่งมาจากเพลงของวง Linkin Park อธิบายสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจน: “ฉันยอมแพ้ตัวตนของฉัน เพื่อเป็นสิ่งที่คุณอยากให้ฉันเป็นและตกหลุมพรางของเครื่องจักรที่ว่างเปล่านี้” ในเพลงนี้ เนื้อเพลงบอกเล่าถึงการที่เรายอมละทิ้งตัวตนของตัวเองเพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของคนอื่น และหลายคนก็รู้สึกเช่นนี้จริง ๆ ราวกับว่าถูกขังอยู่ในชีวิตที่ไม่ได้สะท้อนถึงความฝันหรือความปรารถนาที่แท้จริงของตนเอง แต่บางทีเราอาจจะสามารถหลุดพ้นจากวงจรนี้ได้ อาจมีวิธีที่เราจะคืนสู่ตัวตนเดิมและเชื่อมโยงกับตัวเองและผู้อื่นอีกครั้ง หนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะช่วยเราในเรื่องนี้ก็คือ “ดนตรี” เครื่องจักรแห่งความว่างเปล่า: วิกฤตในยุคปัจจุบัน ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วทุกวันนี้ มันง่ายมากที่เราจะหลงลืมสิ่งที่สำคัญในชีวิต เราไล่ตามเป้าหมายที่สังคมกำหนด บางครั้งเราก็ละทิ้งความชอบส่วนตัวไป นำไปสู่ความรู้สึกเหินห่าง ไม่เพียงแต่กับคนรอบข้าง แต่รวมถึงตัวเราเองด้วย “เครื่องจักรแห่งความว่างเปล่า” ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเปรียบเปรยเท่านั้น แต่มันคือความจริงที่หลายคนกำลังเผชิญ เราตื่นเช้าไปทำงาน กลับบ้านมาดูแลครอบครัว และเมื่อวันสิ้นสุดลง เรารู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะจำได้ว่าเราเคยเป็นใคร หรืออะไรที่เคยทำให้เรารู้สึกมีชีวิตชีวา สำหรับหลายคน การขาดสิ่งนี้มักเกี่ยวข้องกับการละทิ้งสิ่งที่เคยรัก นั่นคือ…