10 เทคนิคที่ช่วยให้ร้องเพลงดีขึ้นทันที

หากเพื่อนๆเป็นคนหนึ่งที่ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ แต่รู้สึกว่าร้องเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจตัวเองสักที วันนี้ครูได้รวบรวมเทคนิค 10 อย่างที่จะช่วยให้เราร้องเพลงได้ดีขึ้นทันที บางข้อก็ทำได้ง่ายมากๆเลย บางข้อก็ต้องอาศัยความขยันและอดทนในการซ้อมค่ะ เอาล่ะถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ

1. ฝึกการหายใจอย่างถูกต้องช่วยให้ร้องเพลงได้ดีขึ้น

การหายใจที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการร้องเพลง การหายใจที่ถูกต้องจะช่วยให้เราร้องเสียงได้สูงขึ้น ช่วยการร้องมีพลังมากขึ้นและยังช่วยให้ร้องประโยคได้ยาวขึ้นอีกเพราะเราสามารถกักเก็บลมได้มากขึ้น นอกจากนี้การหายใจที่ถูกต้องยังช่วยให้เกิดอาการบาดเจ็บที่คอน้อยลงอีกด้วยค่ะ

ให้เพื่อนๆเริ่มต้นฝึกด้วยแบบฝึกหัดการหายใจขั้นพื้นฐานตามตัวอย่างในยูทูปด้านล่างนี้อย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าเพื่อนๆจะร้องเพลงได้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเล่นเปียโนป๊อบ ครูมีคอร์สสอนเปียโนที่จะทำให้เพื่อนๆสามารถเล่นเปียโนได้ภายใน 10 วัน โดยไม่ต้องมีพื้นฐาน ในคอร์สนี้จะสอนการเปลี่ยนคอร์ดให้เร็ว การเล่น 2 มือ การเล่นประกอบการร้อง การเล่นคอร์ดให้เข้ากับสไตลฺ์เพลง เรียนจบคอร์สแล้วเพื่อนๆจะสามารถเล่นเพลงได้เป็นพันๆเพลง หากสนใจสามารถคลิกดูรายละเอียดคอร์สได้ ที่นี่ ค่ะ

2. วอร์มอัพด้วยแบบฝึกหัดก่อนร้องเพลง

ก่อนที่เราจะออกกำลังกาย จะต้องมีการยืดหยุ่นร่างกายเพื่อลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการออกกำลังกาย การร้องเพลงก็เช่นเดียวกันเราจะต้องมีการวอร์มอัพเสียงด้วยแบบฝึกหัดวอร์มเสียงก่อนเพื่อช่วยให้เส้นเสียงนั้นมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งจะลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บที่คอได้และยังช่วยให้ร้องเพลงได้มีพลังมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

การวอร์มเสียงนั้นก็มีวิธีการวอร์มมากมายหลายวิธีเลยทีเดียว บางครั้งก็มีการเปล่งเสียงแปลกๆ มีการเป่าปากให้ปากสั่น แต่วิธีที่เป็นพื้นฐานก็คือการวอร์มเสียงด้วยบันไดเสียงแบบโครมาติก ซึ่งครูได้นำตัวอย่างมาให้เพื่อนๆลองฝึกวอร์มเสียงกันดู หากเพื่อนๆฝึกเป็นประจำทุกวันก่อนร้องเพลงก็จะช่วยให้เราร้องเพลงได้ดีขึ้นมากเลยล่ะค่ะ

3. ปรับท่ายืนในการร้องเพลงให้ถูกต้องเวลาฝึกร้องเพลง

การร้องเพลงนั้นมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการจัดร่างกายที่ถูกต้อง เพราะร่างกายของเรานั้นคือเครื่องดนตรี ดังนั้นเราจึงต้องยืนหรือนั่งหลังตรงเวลาที่เราร้องเพลงเพื่อให้ร่างกายของเรานั้นมีพื้นที่ในการกักเก็บลมและทำให้การหมุนเวียนของลมนั้นเป็นไปอย่างลื่นไหล

ให้เพื่อนๆแน่ใจว่าเวลาที่เราร้องเพลงนั้้นเรายืนหลังตรงและอ้าขาออกเล็กน้อยให้พอดีกับช่วงหัวไหล่ และช่วงหัวเข่าก็ให้ผ่อนคลายไม่เกร็งจนตึง คอและหัวตั้งตรง ไม่ยกหัวไหล่และผ่อนคลายช่องท้อง การผ่อนคลายร่างกายนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยในการร้องเพลง หากเราเกร็งส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกาย ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บของเสียงได้

วีดีโอด้านล่างจะสอนท่ายืนที่ถูกต้องเวลาร้องเพลงและสอนการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเวลาที่เราร้องเพลงด้วยค่ะ

4. หาระดับเสียงของตัวเองให้เจอก่อนที่จะเริ่มร้องเพลง

เราได้เรียนรู้วิธีการหายใจที่ถูกต้องไปแล้ว ได้เรียนรู้เรื่องการวอร์มเสียงและท่าทางการยืนที่ถูกต้อง ตอนนี้ได้เวลาที่จะมาหาระดับเสียงกันแล้วค่ะ สำหรับการร้องเพลงนั้นจะมีระดับเสียงพื้นฐานอยู่ 4 ระดับ โดยแบ่งเป็นเสียงของผู้ชาย 2 ระดับได้แก่ เสียงต่ำหรือเรียกว่าแนวเบส (bass) เสียงสูง เรียกว่าแนว เทเนอร์ (tenor) และเสียงของผู้หญิง 2 ระดับได้แก่ เสียงต่ำ เรียกว่า อัลโต (alto) และเสียงสูงเรียกว่า โซปราโน (soprano)

วิธีการหาระดับเสียงเราจะทำดังนี้ค่ะ ให้เราร้องเสียงระดับไหนก็ได้ที่รู้สึกสบายๆ และเป็นธรรมชาติ เมื่อเราได้เสียงนั้นแล้วให้พยายามร้องสูงขึ้นเรื่อยๆตามระดับเสียงจนกระทั่งเราร้องไม่ได้แล้ว ให้จดระดับเสียงก่อนที่เราจะร้องไม่ได้ เสียงนั้นก็จะเป็นเสียงที่สูงที่สุดของเรา จากนั้นก็ทำตรงกันข้ามก็คือให้ร้องเสียงต่ำลงเรื่อยๆจนกระทั่งเราร้องไม่ได้ ระดับเสียงก่อนหน้านั้นก็คือเสียงต่ำที่สุดของเรา เมื่อได้ระดับเสียงที่สูงสุดและต่ำสุดแล้วก็ให้มาเทียบดูว่าเสียงของเราจัดอยู่ในระดับเสียงแบบไหน

โซปราโน (soprano) เสียงจะอยู่ระหว่าง C4-A5

อัลโต (alto) เสียงจะอยู่ระหว่าง F3- D5

เทเนอร์ (tenor) เสียงจะอยู่ระหว่าง B2 -G4

เบส (bass) เสียงจะอยู่ระหว่าง E2 – C4

C4 คือเสียงตัว C ที่อยู่ตรงกลางของคีย์บอร์ดหรือที่เรียกกันว่า middle C

เมื่อเพื่อนๆรู้ระดับเสียงของตัวเองแล้ว ทีนี้เวลาที่เราร้องเพลงก็เลือกเพลงที่อยู่ในช่วงระดับเสียงของเรา ก็จะทำให้เราร้องเพลงได้น่าฟังมากขึ้น

5. ดื่มน้ำสม่ำเสมอช่วยให้ร้องเพลงได้ดีขึ้น

แม้ว่าเราจะระวังอย่างมากในการไม่ตะเบ็งคอเพื่อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ แต่การที่เราร้องเพลงเป็นระยะเวลานานก็ทำให้กล้ามนื้อคอนั้นเกิดการเกร็งหรือเครียดได้ การดื่มน้ำจะช่วยลดอาการตึงเครียดของกล้ามเนื้อคอได้

การดื่มน้ำอุ่นนั้นเหมาะที่สุดเพราะจะช่วยให้เส้นเสียงมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่เหมือนกับการดื่มน้ำเย็นที่จะทำให้เส้นเสียงนั้นเกิดการรัดเกร็งมากยิ่งขึ้น เลี่ยงการทานอาหารประเภทนมเนย เพราะการรับประทานอาหารประเภทนี้จะก่อให้เกิดการสะสมของสเลดในคอทำให้ร้องเพลงยากขึ้นอีก

6. ฝึกร้องเพลงด้วยการร้องสเกลจะช่วยให้ร้องเพลงได้ดีขึ้น

การฝึกร้องสเกลจะช่วยให้เราแม่นเสียงมากขึ้น การร้องสเกลเราจะร้องด้วยโน้ต โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด ซึ่งเราสามารถไล่สเกลขึ้นลงได้ในคีย์อื่นๆตามระดับเสียงของเรา คลิกอ่านบทความ ประโยชน์ของสเกลได้ ที่นี่

7. ให้แน่ใจว่าเราไม่ได้มีปัญหาในการเทียบเสียง

ส่วนใหญ่แล้วคนทั่วไปนั้นจะสามารถแยกเสียงที่เหมือนกันหรือต่างกันออกได้ แต่ก็มีบุคคลบางกลุ่มซึ่งเป็นส่วนน้อยที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเสียงสองเสียงนั้นเป็นระดับเสียงเดียวกันหรือต่างกัน ครูเคยสอนวิชาโสตทักษะในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งครูได้เจอนักเรียนคนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกความแตกต่างของสองเสียงได้ แม้ว่าครูทดลองกดเทียบสองเสียงทั้งกับเปียโนและเสียงร้อง นักเรียนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเสียงไหนที่เป็นเสียงที่เหมือนกัน น่าเสียดายที่ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้แม้ว่าจะได้รับการฝึกฝนมากแค่ไหนก็ตามเพราะเป็นปัญหาทางลักษณะทางพันธุกรรม แต่โชคดีที่ปัญหานี้จะเกิดขึ้นน้อยมากๆค่ะ

8. ฝึกการออกเสียงให้ถูกต้องจะช่วยให้ร้องเพลงได้ดีขึ้น

การออกเสียงคำให้ถูกต้องนั้นจะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อร้องได้ง่ายขึ้น และทำให้ผู้ฟังเข้าถึงเพลงได้มากขึ้น เราสามารถฝึกโดยการอ่านออกเสียงก่อน โดยเวลาอ่านนั้นพยายามออกเสียงให้ถูกต้อง โดยเฉพาะภาษาอังกฤษก็ต้องให้แน่ใจว่าเราออกเสียงตัวสะกดได้ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นตัว t ตัว s ตัว d ก็ต้องให้ชัดเจน

แม้ว่าเราควรจะออกเสียงคำให้ถูกต้องชัดเจน แต่หลายๆครั้งในเพลงป๊อบเราจะออกเสียงบางคำต่างออกไปจากที่เขียนเพื่อให้ได้เอฟเฟคของเพลงที่แตกต่างออกไป เช่นคำว่า “love” ในบางเพลงจะไม่ออกเสียงว่า “เลิฟ” แต่จะออกว่า “ลาฟ” หรือคำว่า me จะออกเสียงเป็น “เม” แทน “มี” หรือบางครั้งจะไม่ออกเสียงตัว r อันนี้ก็เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่เราอาจจะยังไม่ต้องใส่ใจมากในช่วงแรก สำหรับการร้องเพลงในระดับพื้นฐานนั้นให้ฝึกออกเสียงให้ถูกไว้ก่อนก็จะดีค่ะ

9. พยายามฟังเวลาที่เราร้องเพลง

หลายๆครั้งเวลาที่เราร้องเพลงนั้นเราก็จะอินกับเนื้อร้องและทำนองเพลงจนไม่ได้สนใจที่จะฟังน้ำเสียงของตัวเองว่าเราร้องได้มีคุณภาพหรือไม่ คุณภาพในที่นี้ก็หมายถึง การร้องโน้ตโดยไม่เพี้ยน การร้องด้วยน้ำเสียงที่เหมาะกับเพลง เช่นหากเพลงเป็นสไตล์นุ่มนวลก็ร้องให้นุ่มนวล หากเป็นออกแนวร็อคก็ใช้น้ำเสียงให้ก้าวร้าวเหมาะกับเพลงนั้นๆ

วิธีที่จะช่วยให้เพื่อนๆได้ฟังน้ำเสียงของตัวเองที่ดีที่สุดคือการอัดเสียง เราสามารถใช้โทรศัพท์มือถือในการอัดเสียงของตัวเองได้เลย เมื่อเราเปิดฟังก็จะได้รู้จุดเด่นจุดด้อยในการร้องของตัวเอง ได้เช็คว่าเราร้องเพี้ยนท่อนไหนบ้างและร้องด้วยน้ำเสียงที่เหมาะกับเพลงหรือไม่

10. ซ้อม ซ้อมและก็ซ้อมจะช่วยให้ร้องเพลงได้ดีขึ้น

การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราร้องเพลงได้ดีขึ้น เราสามารถฝึกร้องเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา เราสามารถวอร์มเสียงได้เวลาที่เรากำลังอาบน้ำ เวลาที่เราเดินไปขึ้นรถ ตากผ้า กวาดบ้าน เราสามารถฝึกหายใจได้เวลาที่เราทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เราสามารถฝึกจำเนื้อร้อง ฝึกร้องเสียงให้ตรงคีย์ เราซ้อมได้ทุกที่ทุกเวลาเพราะร่างกายของเราคือเครื่องดนตรีที่ติดตัวเราตลอดเวลาเลยค่ะ

นี่ก็เป็น 10 เทคนิคที่ครูนำมาฝากกันค่ะ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจที่จะเล่นเปียโนประกอบการร้องเพลงล่ะก็ สามารถคลิกอ่านบทความ 10 เทคนิคการเล่นเปียโนและร้องประกอบ ได้เลยค่ะ สำหรับวันนี้ครูลาไปก่อน พบกันใหม่กับบทความฉบับหน้าค่ะ


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *