เรียนเปียโนกับกีตาร์เครื่องไหนยากกว่ากัน

สำหรับเพื่อนๆที่กำลังคิดอยากเล่นเครื่องดนตรีสัก 1 เครื่อง แต่ไม่แน่ใจว่าจะเล่นเครื่องอะไรดี วันนี้ครูจะมาเปรียบเทียบความยากง่ายในการเล่นกีตาร์และเปียโนให้ฟังกันอย่างละเอียดเลยค่ะ เพื่อนๆจะได้นำไปตัดสินใจว่าเราจะเล่นเครื่องอะไรดี พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ

การเล่นกีตาร์ยากกว่าในด้านของร่างกายเพราะในการเล่นกีตาร์จะต้องกดสายให้แน่นจึงจะเกิดเสียงทีใส การกดสายแรงๆทำให้นิ้วเจ็บและเกิดการด้านขึ้น ส่วนการเล่นเปียโนไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บของร่างกาย กดเบาหรือหนักก็มีเสียง ในเรื่องของการเล่นเพลง กีตาร์เล่นให้เป็นเพลงง่ายกว่าเปียโนเพราะมีแพทเทิร์นการกดคอร์ดที่แน่นอน และมือขวาก็มีแพทเทิร์นการตีคอร์ดที่ไม่ยาก การเล่นเปียโนให้เป็นเพลงจะต้องอาศัยเวลามากกว่าเนื่องจากมีวิธีการกดคอร์ดหลายแบบ และการเล่นประสานกันสองมือยากกว่า

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจซื้อกีตาร์ คลิกอ่าน กีตาร์โปร่งราคาต่ำกว่า 5,xxx บาท – อย่าซื้อโดยที่ไม่ได้อ่าน ได้เลยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเล่นเปียโนป๊อบ ครูมีคอร์สสอนเปียโนที่จะทำให้เพื่อนๆสามารถเล่นเปียโนได้ภายใน 10 วัน โดยไม่ต้องมีพื้นฐาน ในคอร์สนี้จะสอนการเปลี่ยนคอร์ดให้เร็ว การเล่น 2 มือ การเล่นประกอบการร้อง การเล่นคอร์ดให้เข้ากับสไตลฺ์เพลง เรียนจบคอร์สแล้วเพื่อนๆจะสามารถเล่นเพลงได้เป็นพันๆเพลง หากสนใจสามารถคลิกดูรายละเอียดคอร์สได้ ที่นี่ ค่ะ

1. เรียนเปียโนกับกีตาร์เครื่องไหนยากกว่ากัน : การเล่นเพลง

โดยทั่วไปนั้นเวลาที่นักเรียนเริ่มฝึกกีตาร์ก็จะเริ่มหัดจากการกดคอร์ดที่มือซ้ายแล้วก็ตีคอร์ดที่มือขวา หลังจากฝึกได้ไม่นานนักเรียนส่วนใหญ่ก็จะสามารถจับคอร์ดได้ ซึ่งคอร์ดเพลงป๊อบโดยทั่วไปแล้วก็จะมีแพทเทิร์นที่ซ้ำๆกัน หากนักเรียนเล่น 4 คอร์ดพื้นฐานได้ก็สามารถเล่นเพลงได้นับร้อยนับพันเพลงเลยค่ะ

หลังจากที่เราหัดจับคอร์ดบนกีตาร์จนคล่องแล้ว เราก็ไม่ต้องกังวลในการจับคอร์ดที่มือซ้ายอีกต่อไป เพราะว่ามันมีแพทเทิร์นที่ตายตัว และนอกจากนี้เราก็ไม่ต้องกังวลว่าเราจะเล่นเสียงเพี้ยนเนื่องจากเสียงกีตาร์จะตรงคีย์อยู่แล้ว ไม่เหมือนกับไวโอลินที่ถ้าเราเลื่อนผิดตำแหน่งไปเล็กน้อยเสียงก็จะเพี้ยนทันที ดังนั้นเวลาที่เราเล่นกีตาร์และฝึกจับคอร์ดจนคล่องเราก็ไม่ต้องสนใจมือซ้ายมากนักเพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการตีคอร์ดที่มือขวา ซึ่งมือขวานั้นก็จะมีวิธีการตีคอร์ดหลายวิธีมากๆ ซึ่งแต่ละวิธีก็จะเหมาะกับสไตล์ของเพลงที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

สำหรับเปียโนนั้นเราจะมีวิธีการกดคอร์ดหลายแบบมากๆ ทั้งแบบไม่มีการพลิกกลับและแบบพลิกกลับ รวมไปถึงการกดคอร์ดที่ประกอบไปด้วยโน้ตที่มากกว่า 3 ตัว ดังนั้นเวลาที่เราเล่นเพลงป๊อบบนเปียโนนั้นเราอาจจะต้องคิดเยอะมากกว่าเวลาที่เราเล่นกีตาร์ค่ะ

การเล่นเปียโนโดยเริ่มเรียนจากคอร์ดนั้นจัดว่าไม่ยาก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วครูส่วนมากจะเริ่มให้นักเรียนฝึกจากการอ่านโน้ตและจังหวะก่อน และจากนั้นก็จะเริ่มฝึกสเกลและเรื่องอื่นๆอีกมากมาย กว่าจะไปเริ่มเล่นคอร์ดก็ต้องเรียนไปหลายเดือนกันเลย แต่หากเพื่อนๆสื่อสารกับครูให้เข้าใจและบอกความต้องการของเรา ครูเปียโนส่วนมากก็จะจัดหลักสูตรตามความสไตล์ที่เราชอบ เช่นหากเป้าหมายของเพื่อนๆคือการเล่นเพลงป๊อบ ครูส่วนใหญ่ก็จะสอนเรื่องคอร์ดในทันที ซึ่งการเรียนลักษณะนี้ก็จะทำให้เพื่อนๆเล่นเป็นเพลงได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ก็อาจจะไม่เร็วเท่ากับการเล่นกีตาร์ค่ะ เพราะการกดคอร์ดบนเปียโนนั้นจะต้องอาศัยกล้ามเนื้อนิ้วที่แข็งแรงพอสมควร เพราะหากเพื่อนๆไม่เคยเล่นมาก่อน การกดคอร์ดนั้นจะค่อนข้างยาก หลายๆครั้งนักเรียนจะกดโน้ตติดกันเป็นพรืดแทนที่จะกดแค่คอร์ดที่จะเล่น สาเหตุมาจากการที่เรายังไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อนิ้วได้นั่นเอง หากเพื่อนๆสนใจการเล่นเปียโนจากคอร์ด คลิกอ่านบทความ เล่นเปียโนจากคอร์ดอย่างไร ได้เลยค่ะ หรือลองลงเรียนฟรี 2 บทแรกในคอร์สเรียน เล่นเปียโนป๊อบได้ใน 10 วัน

สรุป : สำหรับข้อนี้ครูขอยกให้กีตาร์เป็นผู้ชนะค่ะ เนื่องจากสามารถฝึกเล่นให้เป็นเพลงได้ง่ายกว่าการเล่นเปียโนค่ะ

2. เรียนเปียโนกับกีตาร์เครื่องไหนยากกว่ากัน : ความยากทางด้านร่างกาย

ความยากทางด้านร่างกายที่ครูพูดถึงนั้นเกี่ยวกับความเจ็บปวดที่เกิดจากการเล่นค่ะ สำหรับการเล่นเปียโนนั้นไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดทางด้านร่างกายแต่อย่างใด โดยเฉพาะในระดับต้น การเล่นเปียโนไม่ก่อให้เกิดนิ้วด้าน นิ้วเจ็บ หรือทำให้ปวดหลังค่ะ แต่หากเราเรียนในระดับสูงอาจจะมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้ถ้าเราซ้อมหนักเป็นเวลาหลายๆชั่วโมง เราอาจเกิดอาการปวดหลังขึ้นได้ หรืออาการบาดเจ็บของข้อมือหรือหัวไหล่จากการเกร็งหรือการซ้อมแบบผิดๆได้ค่ะ

สำหรับการเริ่มต้นเล่นกีตาร์นั้น เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนก็จะต้องมีอาการเจ็บนิ้วกันอย่างแน่นอน เวลาที่เราจับคอร์ดกีตาร์ที่มือซ้ายนั้น เราจะต้องกดสายให้แน่นเพื่อที่จะก่อให้เกิดเสียงที่คมใส ซึ่งตรงนี้แหละค่ะที่เป็นสาเหตุให้เราเจ็บนิ้วเวลากด เพราะสายกีตาร์นั้นค่อนข้างแข็ง สำหรับกีตาร์คลาสสิคก็จะใช้เป็นสายเอ็น ก็จะเจ็บนิ้วน้อยกว่า แต่หากเพื่อนๆเลือกเล่นกีตาร์โปร่งซึ่งทำมาจากสายลวด นิ้วของเราจะเจ็บมากๆเลยค่ะ คลิ๊กอ่านความแตกต่างระหว่างกีตาร์คลาสสิคและกีตาร์ดโปร่งได้ ที่นี่ ค่ะ หากเพื่อนๆผ่านความเจ็บปวดนี้ไปได้ นิ้วของเราก็จะเริ่มด้านและก็จะเริ่มแข็งขึ้น พอเราเล่นก็ตาร์ก็จะไม่เจ็บอีกต่อไปค่ะ ซึ่งหากเพื่อนๆมีนิ้วด้านเกิดขึ้นจากการเล่นกีตาร์ล่ะก็ แสดงว่าเราก็เริ่มเก่งกีตาร์แล้วค่ะ

สรุป : สำหรับข้อนี้ครูให้เปียโนชนะค่ะ เนื่องจากเวลาที่เราเริ่มฝึกเปียโนร่างกายจะไม่เกิดอาการบาดเจ็บใดๆเลยค่ะ

3.เรียนเปียโนกับกีตาร์เครื่องไหนยากกว่ากัน : แผนผังของตัวโน้ต

แผนผังของคีย์เปียโนนั้นง่ายกว่าของกีตาร์มากๆค่ะ เปียโนนั้นประกอบไปด้วยคีย์ขาวและคีย์ดำ ซึ่งคีย์ดำจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ คีย์ดำติดกัน 2 คีย์ ( 2 black keys) และคีย์ดำที่ติดกัน 3 คีย์ (3 black keys) คีย์ขาวจะมี 7 ตัว ซึ่งเราเรียกทั้งเซ็ตนี้ว่า 1 octave จากนั้นแพทเทิร์นนี้ก็จะซ้ำกันไปตลอดค่ะ

การมีแพทเทิร์นที่ซ้ำกันและเห็นได้ชัดเจน ทำให้การเรียนทฤษฎีดนตรีนั้นง่ายขึ้นเพราะเราสามารถจินตนาการคีย์จำลองขึ้นมาในหัวได้ การไล่สเกลก็ค่อนข้างง่ายกว่าเพราะเราก็แค่ไล่โน้ตขึ้นไปทีละเสต็ปจากซ้ายไปขวาและจากขวาไปซ้ายเท่านั้นเอง

สำหรับกีตาร์นั้นมีแผนผังที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่าเปียโนมาก เนื่องจากกีตาร์มีแค่ 6 สายเท่านั้นดังนั้นการสร้างเสียงจึงค่อนข้างซับซ้อนกว่า การเล่นสเกลบนกีตาร์นั้นจะไม่ได้ไล่ไปทีละตัวเหมือนเปียโน แต่เราต้องเล่นลักษณะซิกแซกเพื่อให้ได้เสียงที่ถูกต้อง ผิดกับเปียโนที่เราแค่ไล่ขึ้นไล่ลงเท่านั้น

และสำหรับนักกีตาร์ที่เรียนทฤษฎีดนตรี ก็จะยากกว่านักเปียโนเนื่องจากเราไม่สามารถจินตนาการตำแหน่งของโน้ตได้ชัดเจนเท่ากับเปียโน จึงต้องอาศัยความพยายามมากกว่าค่ะ และเนื่องจากแผนผังของตัวโน้ตนั้นสลับไปมาไม่เรียงกันเหมือนเปียโน เวลาที่เราเริ่มหัดกีตาร์จึงยากที่จะเล่นโน้ตทีละตัวแต่ง่ายกว่าที่จะจำรูปแบบการจับคอร์ดแทนค่ะ

สรุป : แผนผังของเปียโนง่ายกว่าและชัดเจนมากกว่ากีตาร์

4.เรียนเปียโนกับกีตาร์เครื่องไหนยากกว่ากัน : เทคนิค

เทคนิคระดับต้น

สำหรับเทคนิคระดับต้นนั้นการเล่นเปียโนนั้นง่ายกว่ามาก เพราะไม่ว่าเราจะกดอย่างไรเราก็จะได้เสียงที่คมชัดและไม่เพี้ยนไม่บอด การเล่น 2 มือส่วนใหญ่แล้วก็จะมีตำแหน่งของนิ้วที่วางพอดีกับคีย์โดยที่ไม่ต้องกระโดดไปมา

สำหรับกีตาร์นั้นการสร้างเสียงที่มีคุณภาพในช่วงแรกนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างท้าทายอยู่พอสมควร เช่น

• หากกดสายไม่แน่นพอเสียงก็จะบอด
• เจ็บนิ้วมากๆในช่วงแรกและต้องซ้อมจนกว่านิ้วจะด้านถึงจะหายเจ็บ
• มีเทคนิคการตีคอร์ดที่มือขวาที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งเวลาที่เอามาเล่นรวมกับมือซ้ายที่ต้องจับคอร์ดอาจจะเกิดอาการงงได้

เทคนิคระดับกลางขึ้นไป

สำหรับเทคนิคในระดับนี้ค่อนข้างยากที่จะบอกว่าเครื่องดนตรีชนิดไหนเล่นยากกว่ากัน เนื่องจากแต่ละเครื่องดนตรีก็จะมีความยากในเรื่องที่แตกต่างกัน ครูจะไม่ตัดสินว่าเครื่องไหนยากกว่าแต่จะมาอธิบายความยากของการเล่นในระดับกลางของเปียโนและกีตาร์แทนค่ะ

• ความยากของกีตาร์ในระดับกลาง สำหรับนักกีตาร์ระดับกลาง การควบคุมคุณภาพของเสียงจะเกิดจากการเล่นที่มือขวา ซึ่งเสียงที่ได้นั้นจะมีหลายรูปแบบมาก เสียงจะมีความแตกต่างกันหากเราใช้ปิ๊กเวลาเล่นเพลงเมทัล หรือเวลาที่เราเล่นอาร์เพจจิโอที่ใช้ฟิงเกอร์สไตล์การเล่นให้ได้น้ำเสียงที่เราต้องการนั้นจึงมีความยากอยู่พอสมควรค่ะ
• ไม่มีแรงโน้มถ่วงช่วยในการกด สำหรับเปียโนนั้นเราสามารถใช้น้ำหนักของแขนในการช่วยเล่นได้ เนื่องจากคีย์นั้นอยู่ด้านล่างเราจึงใช้ประโยชน์จากแรงโน้มถ่วงได้ หากเราต้องการเล่นเสียงดังก็ใช้น้ำหนักตัวช่วยได้เช่นกัน แต่สำหรับกีตาร์นั้นเราจะวางในแนวตั้ง จะใช้แรงโน้มถ่วงช่วยให้เรากดสายกีตาร์แน่นๆไม่ได้ เราจึงต้องใช้แรงของเราอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ
• การกดบาร์คอร์ด การกดบาร์คอร์ดหรือการทาบคอร์ดนั้นคือเราจะต้องใช้นิ้วชี้ทาบลงไปบนกีตาร์และพยายามกดให้แน่นในขณะที่นิ้วอื่นๆก็จะต้องกดไปที่ตำแหน่งที่ต่างๆกัน การเล่นบาร์คอร์ดนั้นค่อนข้างยากเพราะการใช้นิ้วเดียวกดหลายๆสายก็ยากที่จะทำให้ทุกสายเสียงใสเหมือนกัน สำหรับบาร์คอร์ดนั้นเป็นจุดที่ครูตกม้าตายในการเล่นกีตาร์เลย เพื่อนๆจะต้องใช้ความอดทนและการฝึกฝนค่อนข้างมากกว่าจะเล่นให้เสียงไม่บอดค่ะ

ความยากง่ายของเปียโนในระดับกลาง

• มีคีย์มากถึง 88 คีย์ สำหรับเปียโนนั้นมีความกว้างประมาณ 150 เซ็น ซึ่งจัดว่ากว้างมากๆ เวลาที่เราเล่นเราจึงต้องขยับนิ้วไปมาหลายๆตำแหน่ง ต้องกระโดดจากเสียงสูงๆไปหาเสียงต่ำบ่อยๆ บางครั้งทั้งสองมือก็ไปคนละทิศคนละทาง ดังนั้นเทคนิคในการเล่นจึงค่อนข้างท้าทายเลยทีเดียวค่ะ

• การประสานของ 2 มือ สิ่งที่ท้ายทายที่สุดในการเล่นเปียโนคือการเล่นสองมือพร้อมกัน หากเพื่อนๆเล่นทำนองที่มือขวาและคอร์ดที่มือซ้ายก็อาจจะไม่ยากสักเท่าไหร่ แต่หากทั้งสองมือเล่นไปพร้อมๆกันการแยกประสาทให้ทั้งสองเล่นประสานกันนั้นยากมากๆ จะต้องใช้เวลาฝึกฝนและใจเย็นมากๆกว่าจะเล่นทั้งสองมือได้คล่องค่ะ
• การใช้เพดเดิล การใช้เพดเดิลนั้นค่อนข้างยาก เพราะเราต้องแยกประสาทสำหรับเท้าให้ประสานกับมือทั้งสองข้างค่ะ

5. เรียนเปียโนกับกีตาร์เครื่องไหนยากกว่ากัน : ความยากง่ายสำหรับเด็ก

สำหรับข้อนี้นั้นคำตอบค่อนข้างง่ายค่ะ สำหรับเด็กเล็กนั้นการเรียนเปียโนง่ายกว่าการเรียนกีตาร์มากๆ เนื่องจากนิ้วของเด็กนั้นค่อนข้างเล็ก การเล่นเปียโนนั้นเด็กก็จะกดคีย์ไล่ไปมาทีละตัว ซึ่งการกดให้เกิดเสียงนั้นไม่จำเป็นต้องกดแรงก็ได้ แต่การเล่นกีตาร์นั้นจะต้องกดในตำแหน่งที่กว้างกว่าและการกดสายก็ต้องกดแรงๆถึงจะมีเสียง การกดสายแรงๆก็จะทำให้นิ้วเจ็บอีกด้วย สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการให้ลูกเล่นกีตาร์ อาจจะลองหันมาฝึกอูคูเลเลแทนก็จะง่ายกว่ามากๆ เพราะอูคูเลเลตัวเล็กและมีแค่ 4 สาย การกดคอร์ดก็จะง่ายกว่ามากๆค่ะ

สรุป : เปียโนเหมาะสำหรับเด็กมากกว่ากีตาร์

6. เรียนเปียโนกับกีตาร์เครื่องไหนยากกว่ากัน : หัดเรียนด้วยตัวเอง

สำหรับเพื่อนๆที่หัดเรียนด้วยตัวเอง ทั้งกีตาร์และเปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่เพื่อนๆสามารถหัดเล่นเองได้ในระดับต้น แต่การหัดกีตาร์นั้นจะง่ายกว่าการหัดเปียโนเยอะมากๆ เพราะการเล่นคอร์ดของกีตาร์นั้นจะมีแพทเทิร์นที่แน่นนอน เทคนิคและวิธีการกดก็จะเกิดการผิดพลาดได้ยากกว่า

สำหรับเปียโนหากเราเริ่มฝึกด้วยตัวเอง เพื่อนๆจะต้องระวังในเรื่องของวิธีการกดให้เกิดเสียง เพราะรูปแบบของมือในการกดเปียโนนั้นจะต้องอยู่ในลักษณะเหมือนกับการกำลูกบอล เราจะต้องใช้ปลายนิ้วในการเล่นไม่ใช่ด้านหน้าของนิ้ว หากเพื่อนๆเริ่มฝึกแบบผิดๆก็จะทำให้พัฒนาต่อในระดับกลางได้ยากค่ะ นอกจากนี้การเล่นเปียโนนั้นจะต้องอาศัยทักษะทางด้านทฤษฎีดนตรีมากกว่าด้วย ดังนั้นการมีครูช่วยแนะนำจึงดีกว่าการหัดด้วยตัวเองค่ะ แต่หากเพื่อนๆอยากลองเรียนเปียโนด้วยตัวเอง คลิ๊กอ่าน เรียนเปียโนด้วยตัวเองต้องเริ่มอย่างไร – อ่านกอนจะได้ไม่เริ่มแบบผิดๆ

สรุป : การหัดเรียนด้วยตัวเองนั้น การฝึกกีตาร์จะง่ายกว่าเปียโน

7. เรียนเปียโนกับกีตาร์เครื่องไหนยากกว่ากัน : การแชร์ดนตรีของเราให้คนอื่นฟัง

การเล่นกีตาร์นั้นมีข้อดีที่เหนือกว่าเปียโนมากๆตรงที่เราสามารถพกพากีตาร์ไปที่ไหนก็ได้ ดังนั้นเราจึงสามารถเล่นโชว์ เล่นในงานปาร์ตี้หรือเอาไปเล่นที่ทะเลก็ยังได้ แต่สำหรับเปียโนนั้นยากมากๆเพราะเนื่องจากเปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่ใหญ่จึงยากที่จะพกพาไปไหนต่อไหน แม้กระทั่งคีย์บอร์ดก็ยังดูใหญ่และเทอะทะไม่เหมาะกับการพกพาเช่นกัน ดังนั้นหากเราเรียนเปียโนจึงยากที่จะหาโอกาสแชร์ให้เพื่อนๆฟังค่ะ

สรุป : กีตาร์นั้นง่ายในการแชร์คนอื่นฟัง

เอาล่ะค่ะหลังจากได้อ่านบทความนี้จบแล้ว เพื่อนๆคงจะได้เห็นความยากง่ายของทั้งสองเครื่องดนตรีกันไปพอสมควร อย่างไรก็ตามเพื่อนๆควรเลือกเล่นเครื่องดนตรีที่ชอบเป็นหลัก หลักจากนั้นก็ค่อยหาทางฝึกไป อาจจะฝึกเองหรือหาครูผู้สอนก็ได้ค่ะ คลิกอ่านบทความเพื่อดูว่าเครื่องดนตรีชนิดใดเริ่มต้นเรียนง่ายที่สุดได้ ที่นี่ พบกันใหม่กับบทความฉบับหน้าค่ะ