วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนเปียโนมีอะไรบ้าง

การเรียนเปียโนนั้นจะยากหรือง่ายขึ้นอยู่กับวิธีที่เราเรียนและหนังสือที่เราใช้ บางครั้งเพลงยากๆหากเรียนอย่างถูกวิธีก็จะทำให้ง่ายขึ้น สำหรับวันนี้ครูจะมาแนะนำวิธีการเรียนเปียโนที่ดีที่สุดให้เพื่อนๆได้นำไปใช้กันค่ะ การเรียนเปียโนที่จะก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดมีวิธีดังนี้

1. ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในการเรียนเปียโน

ในปัจจุบันนั้นมีตัวช่วยในการเรียนเปียโนให้ง่ายมากขึ้นและสนุกขึ้น ครูจะยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในการสอนนักเรียนเปียโนของครูค่ะ

ครูได้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นช่วยสอนเปียโนมาหลายแอพมากๆ ครูได้นำมาใช้กับนักเรียนหลายๆคนนักเรียนของครูมีการพัฒนาในด้านต่างๆดีขึ้นมาก มีความสนุกสนานและง่ายต่อการสอนของครูด้วยค่ะ แอพพลิเคชันที่ครูใชัมีดังนี้ค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่อยากเรียนเปียโนโดยเรียนเป็นขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ลองเช็คคอร์สเรียน เล่นเปียโนป๊อบได้ภายใน 10 วัน แม้ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเล่นได้ค่ะ โดยครูจะสอนตัวอย่างเพลง 3 เพลงและนักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเพลงอื่นๆได้อีกเป็นพันๆเพลงเลยค่ะ

1.แอพสอนเรื่องจังหวะ ในแอพเหล่านี้ก็จะมีการสอนให้นักเรียนปรบจังหวะกับเมโทรโนม โดยเริ่มจากจังหวะง่ายๆไปจนถึงจังหวะเขบ็จสองชั้น บางแอพก็จะมีเกมส์ให้เด็กตอบคำถามหรือเล่นเกมส์เกี่ยวกับจังหวะ แอพที่ครูใช้บ่อยๆก็คือแอพ Rhythm Trainer ค่ะ

2. แอพจาก ABRSM แอพถัดมาที่ครูใช้คือแอพสำหรับทฤษฎีดนตรี อันนี้ครูใช้ของ ABRSM ในแอพนี้ก็จะมีเกมส์ต่างๆให้เล่น ทำให้นักเรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียนมากขึ้น นอกจากนี้ ABRSM ก็ยังมีแอพสำหรับฝึกหู ฝึกอ่านโน้ตเร็วและฝึกเล่นด้วยค่ะ สามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอพพลิเคชันจาก ABRSM ได้ที่นี่ค่ะ

3. แอพฝึกอ่านโน้ต อีก 1 แอพที่ครูชอบมากๆเลยคือ การสอนอ่านโน้ต ครูใช้แอพ Note Trainer (เหมาะสำหรับผู้ใหญ่) และ Note Rush (เหมาะสำหรับเด็ก) ในแอพก็จะเป็นการเล่นเกมส์ทายตัวโน้ต สำหรับ Note Rush นั้นตัวโน้ตก็จะเป็นรูปจรวด และดาวต่างๆ ซึ่งแอพนี้เด็กๆชอบกันมากๆเลยค่ะ ยังมีอีกหลายแอพที่ครูไม่ได้กล่าวถึงไว้ในที่นี้ เพื่อนๆลองเสิร์ชหาข้อมูลดูและอาจจะดาวน์โหลดมาลองเล่นดูก่อนได้ค่ะ

2. จัดหาเปียโนที่มีคุณภาพและเหมาะกับสไตล์ที่เราอยากเรียน

เปียโนนั้นจัดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้เราเรียนเปียโนได้ประสบความสำเร็จ การใช้เปียโนที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเปียโนที่มีคีย์ค้าง เปียโนเสียงเพี้ยน เปียโนที่น้ำหนักคีย์ไม่เท่ากัน เปียโนที่มีคีย์น้อย ล้วนเป็นอุปสรรคในการเรียนเปียโนทั้งสิ้นค่ะ

ครูเคยสอนนักเรียนที่ใช้เปียโนที่มีคีย์ติด (คือกดได้แค่ครั้งเดียวพอกดซ้ำจะไม่มีเสียง) ทุกครั้งที่นักเรียนกลับมาเล่นคีย์เดิมมันก็ไม่มีเสียงซึ่งทำให้การเล่นนั้นไม่ต่อเนื่อง และสร้างความรำคาญใจให้นักเรียนด้วยค่ะ

ส่วนนักเรียนของครูอีกคนซ้อมกับคีย์บอร์ดที่มี 61 คีย์ ในระดับต้นนั้นไม่เป็นปัญหาค่ะ แต่พอเรียนในระดับสูงคีย์ไม่พอนักเรียนจึงไม่สามารถฝึกท่อนนั้นๆในบทเรียนได้ ทำให้พัฒนาการล่าช้าค่ะ

เรื่องของเพดเดิลก็เช่นกัน นักเรียนบางคนไม่ยอมซื้อตัวเพดเดิลมาติดทำให้ฝึกการใช้เพดเดิลไม่ได้ บางคนนั่งเล่นกับพื้นก็ทำให้ท่านั่งไม่ถูกต้อง ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่เกิดจากปัญญาของเครื่องดนตรี ดังนั้นก่อนที่เพื่อนๆจะเริ่มเรียนเปียโนควรศึกษาให้ดีว่าเราควรซื้อเปียโนแบบไหนค่ะ

เปียโนนั้นจะเป็นเปียโนอะคุสติก เปียโนไฟฟ้าหรือคีย์บอร์ดก็ได้ค่ะ หากเพื่อนๆมีงบประมาณมากหน่อยก็จัดหาเปียโนอะคุสติกมาใช้ก็จะช่วยพัฒนาเทคนิคในการเล่นได้ดีขึ้นค่ะ สำหรับนักเรียนที่มีงบจำกัดอาจจะเริ่มจากเปียโนไฟฟ้าก็ได้ค่ะ สำหรับระดับต้นสามารถอ่านบทความ ซื้อเปียโนไฟฟ้ายามาฮ่ารุ่นไหนดี หรือหากเพื่อนๆคนไหนยังไม่อยากลงทุนเยอะสามารถหาเช่าเปียโนก่อนก็ได้ค่ะ คลิกอ่านบทความ เช่าเปียโนที่ไหนดีพร้อมตารางเปรียบเทียบราคา

3. เลือกวิธีเรียนที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง

การเรียนเปียโนนั้นไม่ได้จำกัดแค่แบบเดียวเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป สมัยที่ครูยังเด็กนั้นหากเราต้องการเรียนเปียโนก็จะต้องไปเรียนที่บ้านครูหรือตามโรงเรียนดนตรีเท่านั้น ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายในการเรียนค่อนข้างสูง รวมถึงต้องการมีเดินทางด้วย ปัจจุบันนี้มีทางเลือกในการเรียนเปียโนมากมาย แม้ว่าวิธีอื่นๆนั้นอาจจะไม่ดีเท่ากับการเรียนแบบตัวต่อตัวแต่ก็เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าและได้ผลค่อนข้างน่าพอใจ นอกจากนี้ยังเลือกเวลาเรียนให้เหมาะกับตารางชีวิตของเราได้อีกด้วย เดี๋ยวเราไปดูกันว่าการเรียนแต่ละแบบนั้นมีอะไรบ้างและมีข้อดีข้อเสียอย่างไรค่ะ

1.เรียนเปียโนด้วยตัวเอง

  • เรียนตามตำราพื้นฐานการเรียนเปียโนทั่วไป
  • เรียนรู้ทฤษฎีดนตรีและนำมาใช้ในการเล่นเปียโน
  • เล่นจากการฟัง

2.เรียนเปียโนกับครูแบบวิธีดั้งเดิม

  • เรียนกับครูสอนเปียโนตัวต่อตัวที่บ้าน
  • เรียนกับครูโดยเรียนที่โรงเรียนดนตรี

3. เรียนเปียโนด้วยเทคโนโลยี

4. เรียนเปียโนแบบผสมผสาน

  • เรียนกับครูสอนเปียโนออนไลน์

1. เรียนเปียโนด้วยตัวเอง

การเรียนเปียโนด้วยวิธีนี้ถือว่าเป็นการเรียนเปียโนที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด แต่ต้องอาศัยความตั้งใจมากๆ ซึ่งสิ่งนี้แหละที่จะเป็นตัววัดว่าเราจะเล่นเปียโนได้สำเร็จหรือไม่ค่ะ ไปดูวิธีการเรียนเปียโนด้วยตัวเองแต่ละวิธีกันเลยค่ะ

1.1 เรียนเปียโนจากหนังสือแบบวิธีมาตรฐาน

วิธีนี้ถือว่าเป็นการเรียนที่เพื่อนๆจะได้ปูพื้นฐานในการเล่นเปียโนที่ดีมากๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาดนตรีได้พัฒนาหลักสูตรเหล่านี้ ซึ่งมีบทพิสูจน์มาแล้วว่าทำให้นักเรียนให้ประสบความสําเร็จในการเล่นเปียโนมาหลายต่อหลายรุ่น ตัวครูเองก็เรียนจากเหล่าสูตรเหล่านี้เช่นกันค่ะ

ถ้าเพื่อนๆเลือกวิธีนี้ให้เลือกเรียนจากหนังสือที่มีชื่อเสียง เช่น Alfred, Bastien, Suzuki, Piano Adventure, John Thompson เป็นต้น แต่ละสำนักพิมพ์ก็จะมีหนังสือเรียนสำหรับเด็กและสำหรับผู้ใหญ่ค่ะ

ในหนังสือแต่ละเซ็ตก็จะมีบทเรียนให้เรียนหลายๆอย่าง เช่น หนังสือ Lesson และ Recital นั้นจะเป็นบทเพลงสำหรับเล่นเปียโน หนังสือ theory จะสอนทฤษฎีดนตรี หนังสือ technique จะสอนเทคนิคยากๆในการเล่นเปียโน Ear training จะฝึกเรื่องของหูค่ะ

การเรียนกับครูตัวต่อตัวก็จะใช้หลักสูตรเหล่านี้เช่นกันค่ะ หากเพื่อนๆพออ่านภาษาอังกฤษได้ครูก็แนะนำให้เรียนเปียโนด้วยหลักสูตรเหล่านี้ค่ะ

ข้อดี

  • -หลักสูตรดี มีการสอนอย่างเป็นขั้นตอนจึงไม่ยากมาก หากเพื่อนๆสนใจการเรียนด้วยวิธีนี้สามารถอ่าน รีวิวหนังสือเปียโนจากสำนักพิมพ์ต่างๆ ซึ่งครูได้แนะนำข้อดีข้อเสียของหนังสือแต่ละสำนักพิมพ์เอาไว้ค่ะ

ข้อเสีย

  • หนังสือแต่ละระดับมีหลายเล่ม ราคาค่อนข้างสูง 1 เซ็ตราคาพันกว่าถึงสองพันบาท
  • หนังสือสอนเป็นภาษาอังกฤษ
  • ไม่มีฟีดแบคจากครูว่าเล่นถูกหรือผิด
  • ต้องใช้ความมุ่งมั่นและพยายามมากกว่าเพราะไม่มีครูคอยผลักดันค่ะ

1.2. เรียนรู้ทฤษฎีดนตรีและนำมาใช้ในการเล่นเปียโน

วิธีนี้จะเน้นเรียนทฤษฎีดนตรี โดยการฝึกอ่านโน้ต อ่านจังหวะก่อน เพื่อนๆอาจจะฝึกจากหนังสือเรียนหรืออาจจะดาวน์โหลดแอพพลิเคชันต่างๆมาใช้ฝึกก็ได้เช่นกัน

เมื่อเพื่อนๆฝึกอ่านโน้ตอ่านจังหวะกันจนคล่องแล้วก็เริ่มหาโน้ตเพลงง่ายๆมาฝึกเล่น จากนั้นก็ค่อยๆเพิ่มระดับความยากมากขึ้นค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่ยังอ่านโน้ตไม่คล่อง ลองเช็คคอร์สเรียน การอ่านโน้ตฉบับสมบูรณ์ ที่ครูตั้งใจสอนอย่างละเอียดแบบเป็นขั้นตอน พร้อมทั้งมีแบบฝึกหัดแบบออนไลน์และแบบทำมือมากกว่า 1000 ข้อ เรียนจบรับรองอ่านโน้ตเก่งแน่นอนค่ะ

ข้อดี

  • สำหรับวิธีนี้อาจจะดูเหมือนเสียเวลาเพราะเพื่อนๆจะไม่ได้เล่นเปียโนในทันที แต่ในระยะยาวเพื่อนๆจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าเนื่องจากสามารถอ่านโน้ตและจังหวะได้คล่องเวลาเล่นจึงหัดเพลงได้เร็วและเล่นเพลงได้หลากหลาย

ข้อเสีย

  • หากเรียนทฤษฎีอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้ฝึกเปียโนไปพร้อมๆกัน จะทำให้เล่นไม่ได้หรือเล่นไม่คล่องค่ะ
  • ไม่มีฟีดแบคจากครูว่าเล่นถูกหรือผิด

1.3. เล่นจากการฟัง

การเรียนเปียโนลักษณะนี้เป็นการเรียนที่ใช้เวลามากที่สุดและได้ผลน้อยที่สุด เนื่องจากเพื่อนๆจะไม่มีตัวช่วยอะไรเลยนอกจากหูของตัวเอง และเนื่องจากเราไม่เคยได้รับการฝึกฝนด้านการฟังจากครูผู้เชี่ยวชาญมาก่อน การแกะเพลงแต่ละเพลงจึงใช้เวลานานมาก

สมัยครูเป็นเด็กก็มักจะเล่นเปียโนจากการฟังอยู่บ่อยครั้ง แต่ครูได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่ 4 ขวบดังนั้นมันจึงไม่ยากมากเท่ากับคนที่ไม่ได้รับการฝึกมาก่อน และหลังจากที่เพื่อนๆเล่นแต่ละเพลงได้แล้ว ก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมในการเรียนเปียโนมากนัก ดังนั้นครูคิดว่าการเรียนวิธีนี้ค่อนข้างเสียเวลาค่ะ

ข้อดี

  • ได้เล่นเพลงที่ชอบทันที
  • ประหยัด ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ข้อเสีย

  • ใช้เวลาในการเรียนรู้นานมาก
  • ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร
  • ไม่มีฟีดแบคจากครูว่าเล่นถูกหรือผิด

2.เรียนเปียโนกับครูแบบวิธีดั้งเดิม

2.1. เรียนกับครูสอนเปียโนตัวต่อตัวที่บ้าน

การเรียนวิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งเลยทีเดียวแต่ก็ราคาแพงมากเช่นกัน เนื่องจากการเรียนเปียโนนั้นจะใช้เวลานานหลายปี ดังนั้นจึงจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ข้อดีของการเรียนแบบนี้คือ เพื่อนๆจะได้รับฟีดแบคจากครูทุกครั้งที่เราเรียน ไม่ว่าจะในเรื่องของการนั่ง การวางมือ การเล่นเพลงต่างๆ การฝึกเทคนิคที่จะช่วยให้เล่นเพลงได้คล่อง หรือแม้กระทั่งการเลือกเพลงให้ตรงตามระดับการเรียนของเรา การเรียนจะเป็นไปอย่างลื่นไหล โดยเราจะไม่รู้สึกว่าการเรียนเปียโนนั้นยากจนเกินไปเพราะเราจะมีครูคอยช่วยชี้แนะพร้อมบอกวิธีฝึกอยู่ตลอดเวลา

ข้อดี

  • มีฟีดแบคจากครูในการเล่นเปียโน
  • เรียนอย่างเป็นระบบ
  • ครูสามารถช่วยเวลาที่เราเล่นไม่ได้

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่ายสูง
  • แรงกระตุ้นในการเรียนอาจน้อย


2.2. เรียนกับครูโดยเรียนที่โรงเรียนดนตรี

สำหรับการเรียนตามโรงเรียนดนตรีนั้นก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน การเรียนตามโรงเรียนดนตรีนั้นอาจจะแพงกว่าหรือถูกกว่าการเรียนกับครูส่วนตัวที่บ้านก็ได้ คลิกอ่านบทความ ค่าเรียนเปียโนราคาเท่าไหร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวุฒิของครูหรือโรงเรียนที่เราเลือกด้วยค่ะ ข้อดีของการเรียนที่โรงเรียนดนตรีนั้น ส่วนใหญ่จะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย และเราจะเห็นพัฒนาการการเล่นเปียโนของเพื่อนๆทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการเรียนมากขึ้นด้วยค่ะ

ข้อดี

  • สนุกสนาน มีกิจกรรมเยอะ
  • มีแรงบันดาลใจในการซ้อมมากขึ้น
  • สามารถวัดความสามารถของตัวเองเทียบกับเพื่อนๆคนอื่นๆ

ข้อเสีย

  • ราคาแพง
  • เสียเวลาเดินทาง

3. เรียนเปียโนโดยใช้เทคโนโลยี

3.1. ซื้อคอร์สออนไลน์มาเรียน

สำหรับการเรียนลักษณะนี้ก็ค่อนข้างดี เพราะเพื่อนๆสามารถเลือกสไตล์การเรียนที่หลากหลายและสามารถเลือกครูสอนได้หลากหลายด้วยเช่นกัน ในต่างประเทศนั้นการเรียนออนไลน์ลักษณะนี้ได้รับความนิยมมาก ในประเทศไทยนั้นอาจจะยังจำกัดอยู่ เนื่องจากมีครูไม่กี่ท่านที่ทำคอร์สออนไลน์ขึ้นมา

สำหรับการเรียนออนไลน์นั้นก็ได้ผลดีพอสมควรหากเพื่อนๆมีความมุ่งมั่น มีตารางการเรียนและการฝึกซ้อมที่ดี เพื่อนๆที่ต้องมีครูคอยจี้ตลอดเวลาอาจจะไม่เหมาะกับการเรียนลักษณะนี้ เพราะทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่กับเราหมด เราจะเก่งช้าเก่งเร็วก็อยู่ที่การฝึกฝนของเราค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเล่นเปียโนป๊อบ ครูมีคอร์สสอนเปียโนที่จะทำให้เพื่อนๆสามารถเล่นเปียโนได้ภายใน 10 วัน โดยไม่ต้องมีพื้นฐาน ในคอร์สนี้จะสอนการเปลี่ยนคอร์ดให้เร็ว การเล่น 2 มือ การเล่นประกอบการร้อง การเล่นคอร์ดให้เข้ากับสไตลฺ์เพลง เรียนจบคอร์สแล้วเพื่อนๆจะสามารถเล่นเพลงได้เป็นพันๆเพลง หากสนใจสามารถคลิกดูรายละเอียดคอร์สได้ ที่นี่ ค่ะ

ข้อดี

  • มีคอร์สให้เลือกมากมายหลากหลายสไตล์
  • เรียนเวลาไหนก็ได้
  • สามารถเลือกเรียนตามความช้าเร็วของตัวเอง

ข้อเสีย

  • บางคอร์สมีราคาแพงมาก พอๆกับการเรียนเดี่ยวกับครูตัวต่อตัว

3.2. ติดตามวิดีโอการสอนเปียโนตามยูทูป

วิธีนี้จริงๆแล้วก็ใช้ได้ในระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนๆมีพื้นฐานระดับไหน สำหรับครูนั้นคิดว่าหากเพื่อนๆเคยเรียนพื้นฐานการเล่นเปียโนเบื้องต้นมาบ้างการเรียนลักษณะนี้ก็ค่อนข้างสนุก เพราะเราสามารถเลือกเรียนสไตล์ไหนที่เราอยากเรียนก็ได้ไม่จำกัด สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งเริ่มฝึกใหม่จากยูทูปนั้นอาจจะยากพอสมควร เพราะหลายๆครั้งการสอนจะไม่ต่อเนื่องและเราจะไม่ได้ฟีดแบคจากครูค่ะ ครูฝากช่องยูทูปของครูไว้ด้วยนะคะ กดดูได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ

ข้อดี

  • ไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • มีตัวเลือกเยอะ

ข้อเสีย

  • ต้องเสียเวลาค้นหาช่องยูทูปที่เราต้องการ
  • การเรียนอาจจะไม่ต่อเนื่อง

3.3. ใช้ซอฟแวร์และแอพพลิเคชันในการเรียนเปียโน

สำหรับการเรียนด้วยแอพพลิเคชันนั้นก็ให้ความสะดวกค่อนข้างดี และก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้เรียนได้ง่ายขึ้น เช่นมีไฟส่องที่คีย์เวลาที่เราเล่น ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้ก็ทำให้เล่นได้ง่ายขึ้น รวมถึงเพื่อนๆยังได้เรียนรู้เพลงที่หลากหลายสไตล์ แต่หลายๆครั้งเพื่อนๆอาจจะไม่ได้องค์ความรู้อื่นๆในการเรียนเปียโน เช่น การตีความเพลง ทฤษฎีดนตรี การฝึก sight reading การด้นสด เป็นต้น

ข้อดี

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • สามารถเรียนซ้ำได้
  • มีเพลงให้เลือกหลายหลายสไตล์
  • เรียนเพลงที่ชอบได้ทันที

ข้อเสีย

  • ไม่มีฟีดแบค
  • ไม่มีแรงบันดาลใจในการเรียน

4. เรียนเปียโนแบบผสมผสาน

4.1. เรียนกับครูสอนเปียโนออนไลน์

การเรียนเปียโนกับครูผู้สอนโดยเรียนแบบออนไลน์นั้น ค่าใช้จ่ายจะไม่ต่างกับการเรียนเดี่ยวกับตัวต่อตัวมากสักเท่าไหร่ อาจจะถูกกว่าแค่เล็กน้อยเท่านั้นหรืออาจจะราคาเท่ากัน ในการเรียนลักษณะนี้นักเรียนจะได้ประโยชน์ค่อนข้างมากเนื่องจากจะได้ฟีดแบคจากครู และหากเล่นเพลงท่อนไหนไม่ได้ครูก็สามารถช่วยแนะนำแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ประโยชน์ที่นักเรียนจะได้รับในการเรียนแบบออนไลน์นั้นจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี เพราะครูสามารถใช้เทคโนโลยีต่างๆมาใช้สอนได้ง่ายยิ่งขึ้นและสนุกขึ้น สิ่งที่นักเรียนจะต้องเตรียมก็มีแค่เว็บแคม ไมโครโฟน อินเตอร์เน็ต เปียโนหรือคีย์บอร์ดเท่านั้น

ข้อดี

  • ประหยัดเวลาในการเดินทาง
  • ได้ฟีดแบคจากครูเหมือนกับการเรียนเปียโนแบบตัวต่อตัว
  • มีเทคโนโลยีช่วยให้การเรียนสนุกยิ่งขึ้น

ข้อเสีย

ครูไม่สามารถจัดท่าทางการเล่นได้ดีเท่ากับการเรียนแบบตัวต่อตัว

บางครั้งอินเตอร์เน็ตอาจเกิดการติดขัดได้

เสียงเปียโนจะไม่ชัดจึงทำให้ครูสอนยากมากขึ้น


เอาล่ะค่ะนี่ก็เป็นวิธีดีๆที่จะช่วยให้การเรียนเปียโนนั้นประสบความสำเร็จมากที่สุด ซึ่งครูได้เขียนจากประสบการณ์ในการสอนเปียโนมา 20 กว่าปี แต่ครูขอบอกว่าสิ่งที่ครูเขียนมาทั้งหมดนี้จะสำเร็จไม่ได้เลยหากเพื่อนๆไม่ฝึกซ้อม สิ่งสำคัญที่สุดในการเรียนเปียโนคือต้องซ้อมอย่างสม่ำเสมอค่ะ


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *