คีย์บอร์ดกับเปียโนไฟฟ้าต่างกันอย่างไร

เพื่อนๆที่เริ่มเรียนเปียโนหรือว่าอยากจะเรียนเปียโนคงกำลังหาเปียโนสักเครื่องหนึ่งเอาไว้ซ้อมใช่มั้ยล่ะคะ ทีนี้ก่อนจะซื้อเรามาดูให้แน่ใจกันก่อนดีกว่าว่าคีย์บอร์ดกับเปียโนไฟฟ้าต่างกันอย่างไร

คีย์บอร์ดต่างกับเปียโนไฟฟ้าตรงที่คีย์บอร์ดจะเหมาะกับการเคลื่อนย้ายเพราะมีขนาดเล็กกว่าและเบากว่า จำนวนคีย์ของคีย์บอร์ดมีให้เลือกตั้งแต่ 25 คีย์ – 88คีย์ คีย์บอร์ดจะมีเสียงให้เลือกมากกว่า คีย์ของคีย์บอร์ดจะเบากว่าเปียโนไฟฟ้าเพราะเปียโนไฟฟ้ามีการถ่วงน้ำหนักมากกว่า เปียโนไฟฟ้าจะพยายามเลียนแบบทั้งเรื่องเสียงและสัมผัสให้ใกล้เคียงกับเปียโนมากที่สุด

คีย์บอร์ด vs เปียโนไฟฟ้า

  • คีย์บอร์ดมีทัชชิ่งเบาส่วนเปียโนไฟฟ้ามีการถ่วงน้ำหนักจึงทำให้คีย์หนักกว่า
  • คีย์บอร์ดให้ความรู้สึกในการเล่นต่างกับเปียโนอะคุสติกมากๆ
  • คีย์บอร์ดสามารถเลียนเสียงเครื่องดนตรีได้หลายชนิดและมีเสียงแบบอิเล็กโทรนิคมากกว่าเปียโนไฟฟ้า
  • เปียโนไฟฟ้าพยายามเลียนแบบเปียโนอะคุสติกให้มากที่สุด
  • คีย์บอร์ดส่วนมากมีคีย์น้อยกว่าเปียโนไฟฟ้า

สำหรับเพื่อนๆที่อยากเรียนเปียโนโดยเรียนเป็นขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ลองเช็คคอร์สเรียน เล่นเปียโนป๊อบได้ภายใน 10 วัน แม้ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเล่นได้ค่ะ โดยครูจะสอนตัวอย่างเพลง 3 เพลงและนักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเพลงอื่นๆได้อีกเป็นพันๆเพลงเลยค่ะ

คีย์บอร์ดคืออะไร

คีย์บอร์ดนั้นดีไซน์ขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับการเคลื่อนย้าย ปกตินั้นจะมีน้ำหนักเบาและส่วนมากจะมี 61 คีย์หรือ 78 คีย์ ไม่เหมือนกับเปียโนที่มีคีย์ 88 คีย์ ตัวคีย์นั้นส่วนมากจะไม่มีน้ำหนักหรืออาจจะเป็นแบบกึ่งถ่วงน้ำหนัก (semi weighted key คีย์บอร์ดไม่ได้ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับเปียโนสักเท่าไหร่ คีย์บอร์ดจะมีเสียงให้เลือกมากกว่าเปียโนไฟฟ้าและมีเสียงที่เป็นอิเล็กโทรนิคมากกว่า

เปียโนไฟฟ้าคืออะไร

เปียโนไฟฟ้านั้นดีไซน์ขึ้นมาเพื่อมาใช้ทดแทนเปียโนอะคุสติก ส่วนมากเปียโนไฟฟ้าจะมี 88 คีย์เหมือนกับเปียโนอะคุสติก ส่วนใหญ่จะมี 3 สไตล์ ได้แก่ 1. เปียโนไฟฟ้าแบบบิลด์อินบอดี้เหมือนกับเปียโนอัพไรท์ (เปียโนอะคุสติกแบบตั้งตรง) 2. เปียโนไฟฟ้าแบบที่สามารถเอามาใส่บอดี้ได้ 3. เปียโนไฟฟ้าที่ใช้กับขาตั้ง ส่วนมากเปียโนไฟฟ้าจะมีความคล้ายคลึงกับเปียโนอะคุสติก

ความแตกต่างของคีย์บอร์ดกับเปียโฟฟ้ามีอะไรบ้าง

หลังจากเพื่อนๆพอรู้คร่าวๆถึงความแตกต่างระหว่างคีย์บอร์ดกับเปียโนไฟฟ้ากันไปแล้ว ตอนนี้เรามาดูรายละเอียดกันดีกว่าค่ะ

คีย์บอร์ดกับเปียโนไฟฟ้าต่างกันที่น้ำหนักและขนาด

ก่อนเพื่อนๆจะซื้อเปียโนต้องถามตัวเองก่อนว่าจะต้องเคลื่อนย้ายเปียโนบ่อยแค่ไหน? มีพื้นที่ในการตั้งเครื่องดนตรีใหญ่แค่ไหน? หากคำตอบคือต้องมีการเคลื่อนย้ายเครื่องดนตรีบ่อยๆก็ควรจะซื้อคีย์บอร์ดมากกว่าเปียโนไฟฟ้าเพราะน้ำหนักเบากว่าจึงขนย้ายได้สะดวกและสามารถใช้ขาตั้งแบบไหนก็ได้ เปียโนไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักมากกว่าคีย์บอร์ด

เมื่อไม่กี่เดือนก่อนครูสั่งเปียโนไฟฟ้ามาจากอินเตอร์เน็ตแล้วพนักงานขนส่งไม่ขนเข้ามาในบ้านให้ครู ครูช่วยกันยกกับแฟนแต่ก็ยกไม่ไหวจนเพื่อนบ้านต้องมาช่วย มันหนักมากจริงๆ ค่ะ ลืมบอกไปว่าของครูเป็นรุ่น Yamaha YDP 164 มันเป็นบิลด์อินบอดี้เหมือนอัพไรท์ ก็เลยจะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นที่ไม่มีบอดี้ ถ้าเราซื้อแบบรุ่นที่ไม่มีบอดี้ ก็จะต้องหาขาตั้งที่แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของเปียโนไฟฟ้าได้ ไม่อย่างนั้นมันจะหักลงมาค่ะ

มาถึงเรื่องพื้นที่สำหรับตั้งเปียโนบ้าง ถ้าหากว่าบ้านของเพื่อนๆมีพื้นที่กว้างขวาง เปียโนไฟฟ้าก็ช่วยทำให้บ้านดูสวยขึ้น เหมือนกับเป็นเฟอร์นิเจอร์แพงๆที่เราใช้ประดับบ้าน แต่ถ้าหากเพื่อนๆมีพื้นที่จำกัดอาจจะเลือกเป็นคีย์บอร์ดจะได้ประหยัดพื้นที่ และนอกจากนี้เพื่อนๆยังสามารถเลือกได้ว่าจะเอาคีย์บอร์ดแบบกี่คีย์เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ของบ้านได้อีกด้วย

คีย์บอร์ดกับเปียโนไฟฟ้าต่างกันที่คุณภาพของเสียง

หากเรื่องของคุณภาพเสียงเป็นสิ่งสำคัญ เปียโนไฟฟ้านั้นให้เสียงที่ใกล้เคียงกับเปียโนอะคุสติกมากกว่า เนื่องจาก 30 ปีที่ผ่านมานั้น บริษัทผลิตเปียโนไฟฟ้าหลายๆแห่งได้พยายามพัฒนาเปียโนไฟฟ้าให้มีเสียงที่เหมือนกับแกรนด์เปียโน (เปียโนขนาดใหญ่สำหรับคอนเสิร์ต) ซึ่งหลายๆบริษัทพยายามเลียนเสียงเปียโนยี่ห้อดังๆอย่างเช่น Steinway

ตัวอย่างเสียงของเปียโนไฟฟ้า

ครูขอบอกเลยว่าเสียงของเปียโนไฟฟ้าในรุ่นสูงๆนั้นให้เสียงที่ไพเราะมากเลยทีเดียว ตอนที่ครูได้เปียโนไฟฟ้ามาครั้งแรก ครูเล่นดูแล้วก็ตกใจมาก เพราะว่ามันเสียงดีมากและมีทัชชิ่งเกือบจะเหมือนกับเปียโนอะคุสติกจริงๆ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่ารุ่นที่ราคาไม่แพงอย่าง Yamaha P 45 หรือ Yamaha P 125 นั้นเสียงจะไม่ได้ดีเท่ากับรุ่นที่ราคาแพงๆ

เสียงของคีย์บอร์ด

มาพูดกันเรื่องของเสียงในคีย์บอร์ดบ้าง แม้ว่าคีย์จะไม่ได้มีเสียงที่พยายามเลียนแบบเปียโนอะคุสติก แต่คีย์บอร์ดนั้นเน้นไปที่ความหลากหลายของเสียง ซึ่งมีเสียงให้เลือกมากกว่า 100 เสียง คีย์บอร์ดจะมีเสียงที่เป็นอิเล็กโทรนิคเยอะมากๆอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นปริมาณก็ไม่ได้เป็นตัวบอกคุณภาพ สำหรับครูครูชอบเสียงของเปียโนไฟฟ้ามากกว่าและเปียโนไฟฟ้ารุ่นสูงๆก็จะมีเสียงให้เลือกได้หลากหลายเช่นกัน

คีย์บอร์ดกับเปียโนไฟฟ้าต่างกันตรงความหนักของคีย์

เปียโนไฟฟ้าจะให้ความรู้สึกคล้ายกับเปียโนอะคุสติกเวลาที่เรากดคีย์ คีย์ของเปียโนไฟฟ้านั้นส่วนใหญ่จะเป็นแบบ กึ่งถ่วงน้ำหนัก (semi weighted key) และแบบถ่วงน้ำหนัก (weighted key) เปียโนไฟฟ้าแบบถ่วงน้ำหนักนั้นส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยีที่เรีกว่า hammer-action ซึ่งเป็นการเลียนแบบลักษณะการเกิดเสียงในเปียโนอะคุสติก

คีย์แบบกึ่งถ่วงน้ำหนักนั้นจะใช้เทคโนโลยีทีเรียกว่า string action ผลที่ได้คือคีย์จะมีน้ำหนักน้อยกว่า ซึ่งจะให้ความรู้สึกไม่เหมือนกับเวลากดคีย์เปียโนอะคุสติก เปียโนไฟฟ้ารุ่นที่ราคาสูงๆนั้นบางรุ่นจะสามารถปรับความหนักของคีย์ได้และนอกจากนี้บางรุ่นยังมีการเพิ่มฟังชั่น after- touch ซึ่งเป็นการตอบสนองของคีย์หลังจากที่เรากดซึ่งเหมือนกับลักษณะการกดคีย์ในเปียโนอะคุสติก

คีย์บอร์ดนั้นส่วนมากจะเป็นแบบ กึ่งถ่วงน้ำหนัก (semi weighted key) หรือไม่มีน้ำหนักเลย (unweighted) คีย์แบบนี้เล่นง่ายกว่าและเหมาะกับการทำ glissando (การใช้มือรูดคีย์เปียโนจากต่ำ-สูงหรือ สูง-ต่ำ) หลายๆคนบอกว่าคีย์ยแบบนี้เหมาะสำหรับเด็กแต่สำหรับครูคิดว่า เด็กควรฝึกจากคีย์ที่มีการถ่วงน้ำหนักมากกว่า เพื่อช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อนิ้วของเด็กนั่นเอง

คีย์บอร์ดกับเปียโนไฟฟ้าต่างกันที่เพดเดิล (pedal)

เพดเดิลของเปียโนไฟฟ้า

เปียโนไฟฟ้าจะมีเพดเดิล 3 อันเหมือนกับเปียโนอะคุสติกแบบอัพไรท์ เพดเดินด้านซ้ายจะทำให้เสียงเบาลงและใช้เปลี่ยนโทนเสียง เพดเดิลตรงกลางจะทำให้เสียงเบามากๆเพื่อใช้ซ้อมเวลาที่ไม่ต้องการรบกวนใคร เพดเดินขวาสุดจะช่วยให้เสียงต่อเนื่องและกังวาน

เพดเดิลของคีย์บอร์ด

เพดเดิลของคีย์บอร์ดจะไม่มีมาในตัว เพื่อนๆสามารถซื้อแยกแล้วมาต่อกับปุ่มเสียบในคีย์บอร์ดได้ ครูเคยมีคีย์บอร์ดซึ่งใช้เพดเดิลแบบนี้ มันก็จะมีปัญหานิดหน่อยเวลาใช้เพราะว่ามันไม่ได้บิลด์อินก็จะลื่นๆหน่อยแต่สามารถเอาผ้ามาวางให้ไม่ลื่นได้นะคะ

คีย์บอร์ดหรือเปียโนไฟฟ้าเหมาะสำหรับผู้เริ่มเรียนเปียโน

ก่อนอื่นต้องถามเพื่อนๆก่อนว่าต้องการเรียนแบบไหนและจะใช้งานอย่างไร ถ้าหากว่าเล่นเปียโนเพื่อไปแจมวงดนตรีกับเพื่อน คีย์บอร์ดจะเหมาะกว่าเพราะสามารถขนย้ายได้สะดวก ถ้าหากว่าชอบเปียโนอะคุสติกแต่ห้องเล็กก็อาจจะซื้อเปียโนไฟฟ้า ถ้าเน้นที่คุณภาพเสียงก็ควรเลือกเปียโนไฟฟ้า ถ้าอยากทำเพลงและต้องการได้เสียงเยอะๆก็ควรเลือกเป็นคีย์บอร์ดค่ะ

ราคาคีย์บอร์ดเทียบกับเปียโนไฟฟ้า

เมื่อพูดกันถึงเรื่องของงบประมาณ คีย์บอร์ดหรือเปียโนไฟฟ้านั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของราคาอยู่พอสมควร คีย์บอร์ดจะมีราคาต่ำกว่าเปียโนไฟฟ้าค่อนข้างมาก คีย์บอร์ดมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น เปียโนไฟฟ้านั้นราคาเริ่มต้นก็หลักหมื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าใครที่มีงบจำกัดก็ควรเลือกซื้อเป็นคีย์บอร์ด ครูจะแนะนำว่าถ้าซื้อคีย์บอร์ดพยายามซื้อให้มีคีย์เยอะๆหน่อยเพราะครูเคยสอนนักเรียนคนหนึ่งเพื่อเตรียมตัวสอบเกรด 6 ของ Trinity นักเรียนคนนี้ใช้คีย์บอร์ดในการฝึกซ้อม เนื่องจากคีย์บอร์ดที่นักเรียนใช้ซ้อมนั้นมีคีย์แค่ 61 คีย์ แต่เพลงที่เล่นในระดับนี้มีโน้ตที่กว้าง หมายความว่าจะต้องใช้ตั้งแต่คีย์ที่ต่ำๆไปจนถึงคีย์สูงๆ มันก็ไม่พอซ้อม ดังนั้นเลือกที่มีคีย์เยอะๆก็จะดีกว่าค่ะ

ควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดหรือเปียโนไฟฟ้าดี

หลังจากเพื่อนๆได้เห็นความแตกต่างของคีย์บอร์ดและเปียโนไฟฟ้าแล้วก็คงจะตัดสินใจได้ว่าแบบไหนเหมาะกับสไตล์การเล่นของเรา ุถ้าเรียนจริงจังแบบว่าอยากสอบเกรดหรือสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ควรเลือกเปียโนไฟฟ้า แต่ถ้าเล่นกับวง คีย์บอร์ดก็ดูจะเป็นช้อยส์ที่ดีค่ะ

ถ้าถามความเห็นของครู ครูคิดว่าเปียโนไฟฟ้าดีกว่าเพราะให้ความรู้สึกเหมือนกับเปียโนอะคุสติกมากกว่า สามารถใช้ได้หลากหลายมากกว่า ที่สำคัญเวลาที่ครูเล่นคีย์บอร์ดแล้วมันไม่ค่อยได้อรรถรถทั้งเรื่องของเสียงและทัชชิ่งทำให้ไม่อยากเล่น แต่ทั้งทั้งนั้นก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลค่ะ

หลังจากเพื่อนๆตัดสินใจได้แล้วก็ควรศึกษาวิธีเลือกซื้อคีย์บอร์ดหรือเปียโนไฟฟ้าอย่างละเอียด พยายามดูรีวิวเยอะๆว่าแต่ละแบบมีฟังก์ชั่นอะไรบ้างและเสียงเป็นอย่างไร บางรุ่นราคาต่างกันแต่รุ่นที่สูงกว่าฟังก์ชั่นก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพราะฉะนั้นควรศึกษาให้ละเอียดก่อนซื้อนะคะ พบกันใหม่กับบทความฉบับหน้าค่ะ