กำลังมองหาเปียโนไฟฟ้ากันอยู่รึเปล่าคะ สำหรับนักเรียนที่เริ่มเรียนเปียโนหรือคีย์บอร์ด หากไม่ต้องการลงทุนค่าเครื่องดนตรีมาก หากเราหาเปียโนไฟฟ้าหรือเปียโนอะคุสติกมือ 2 มาใช้ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก หากเพื่อนๆสนใจเปียโนอะคุสติกมือ 2 คลิกอ่าน ซื้อเปียโนมือ 2 ร้านไหนดี หรือหากใครสนใจเป็นเปียโนไฟฟ้ามาอ่านกันต่อในบทความนี้กันเลยค่ะ
วันนี้ครูเปรียบเทียบเปียโนที่ได้รับความนิยมทั้ง 10 รุ่น ซึ่งเหมาะกับนักเรียนเปียโนระดับต้น จะได้เห็นกันชัดๆว่าเปียโนไฟฟ้ารุ่นไหนตอบโจทย์เราได้มากที่สุดค่ะ
รุ่นเปียโน | ราคา /บาท | คีย์/แอคชัน | จำนวนเสียง | ลำโพง/ Bluetooth | การเชื่อมต่อ | น้ำหนัก kg/ขนาด cm |
---|---|---|---|---|---|---|
1. Casio PX-S1100 | 28,900 32,000 | -88 คีย์ -ถ่วงน้ำหนัก -hammer action | -18 เสียง polyphony: 192 | 8 วัตต์ Bluetooth : Audio/Midi | -หูฟัง 2 ตัว -pedal input -พอร์ต USB, Line-out L/R โมโน | -11.4 kg -132.2×23.2×10.2 |
2. Roland FP-10 | 27,900 | -88 คีย์ -ถ่วงน้ำหนัก -เลียนแบบคีย์งาช้าง | -เปียโน 4 เสียง เปียโนไฟฟ้า 2 เสียงและเสียงอื่นๆอีกมากมาย -polyphony 96 | 2 x 7 วัตต์ Bluetooth: MIDI/Audio | -เชื่อมต่อด้วย USB pedal input -เอาต์พุตมินิแจ็คหูฟังสเตอริโอ 3.5 มม | – 12.3 kg -128.4×25.8x 14 |
3. Casio Privia PX-770 | 43,000 | -88 คีย์ -ถ่วงน้ำหนัก -Tri-Sensor Scaled Hammer Action II | 19 เสียง polyphony: 128 | -8 วัตต์ -ไม่มี Bluetooth | -เชื่อมต่อด้วย USB 2 x stereo multi-use (headphone / line out) output | – 31.5 kg -139.1 x 29.9 x 79.8 |
4. Yamaha p 45 | 26,900 | -88 คีย์ -ถ่วงน้ำหนัก -Graded Hammer Standard (GHS) | 10 เสียง polyphony: 64 | – 6 วัตต์ – ไม่มี Bluetooth | -เชื่อมต่อด้วย USB -Sustain Pedal Input – Stereo headphone output | – 11.5 kg -132.6 x 29.5 x 15.4 |
5. Kawai ES 120 | 29,900 | -88 คีย์ -ถ่วงน้ำหนัก -Responsive Hammer Compac | 25 เสียง polyphony: 192 | -2 x 7วัตต์ Bluetooth: MIDI/Audio | MIDI In/Out, 2 x 6.3mm headphone output, Line Out (L/R/Mono), Sustain pedal input | – 18 kg – 145 x 37 x 26.5 |
6. Roland GO:PIANO 88 | 14,400 – 16,190 | – 88 คีย์ – กึ่งถ่วงน้ำหนัก | 4 เสียง polyphony: 128 | 10 วัตต์ Bluetooth: Audio / MIDI | -เชื่อมต่อด้วย USB – 6.3mm headphone output – pedal input | – 7.0 kg – 128.3 x 291 x 87 |
7. Korg B2 | 16,200 – 18,000 | – 88 คีย์ -ไม่ถ่วงน้ำหนัก | 12 เสียง polyphony: 120 | 15 วัตต์ – ไม่มี Bluetooth | -เชื่อมต่อด้วย USB – pedal input Combined Headphone / Line Output | – 9.3 kg -131.2 x 33.6 x 11.7 |
8. Yamaha Arius YDP-S55 | 39,900 | – 88 คีย์ -ถ่วงน้ำหนัก Graded Hammer Standard (GHS) | 10 เสียง polyphony: 192 | – 8 วัตต์ – ไม่มี Bluetooth | – เชื่อมต่อด้วย USB – 2 x stereo headphone output | – 35.9 kg – 1353 x 296 x 792 |
9. Casio CDP-S110 | 17,900 – 22,900 | – 88 คีย์ -ถ่วงน้ำหนัก – Tri-Sensor Scaled Hammer Action II | 10 เสียง polyphony 64 | – 8 วัตต์ – ไม่มี Bluetooth | – เชื่อมต่อด้วย USB – headphone output, Sustain pedal input, 3.5mm stereo aux input | – 10.5 kg – 1322 x 232 x 99 |
10. Yamaha P-125 | 33,000 | – 88 คีย์ -ถ่วงน้ำหนัก – Graded Hammer Standard (GHS) | 24 เสียง polyphony 192 | – 7 วัตต์ – ไม่มี Bluetooth | – เชื่อมต่อด้วย USB – 2 x 6.3 mm line output stereo jack, 2 x 6.3mm stereo headphone outputs – pedal input connector for LP-1 pedal unit | – 11.8 kg – 1326 x 295 x 166 |
เพื่อนๆที่หัดเรียนเปียโนด้วยตัวเองแต่ยังอ่านโน้ตไม่ได้ครูมี คอร์สสอนการอ่านโน้ตฉบับสมบูรณ์ ซึ่งมีแบบฝึกหัดทั้งออนไลน์และดาวน์โหลดไปฝึกมากกว่า 1000 ข้อ รับรองว่าหากเรียนจบคอร์สแล้วจะสามารถอ่านโน้ตได้อย่างคล่องแคล่วเลยค่ะ สำหรับใครที่อ่านได้แล้ว เราไปดูรายละเอียดของเปียโนไฟฟ้าแต่ละรุ่นกันต่อเลยค่ะ
1. Casio PX-S1100
สนใจดูรายละเอียดสินค้า คลิกดูได้ที่ เปียโนไฟฟ้า Casio PX-1100
รุ่นนี้เป็นการอัพเกรดจากรุ่น S1000 ที่เพื่อนๆหลายๆคนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับ PX-S1100 รุ่นใหม่นี้มีการเพิ่มคุณสมบัติที่ทันสมัยตามความต้องการของนักเปียโนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน เปียโนคีย์ที่ถ่วงน้ําหนักเต็ม 88 โน้ตนี้เหมาะสําหรับเพื่อนๆที่ต้องการมองหาเครื่องดนตรีราคาไม่แพงแต่คุณภาพเต็มเปี่ยม
สิ่งใหม่สําหรับ S1100 คือความสามารถในการสตรีมเสียงและ MIDI แบบไร้สายผ่านอะแดปเตอร์ USB WU-BT10 ที่ให้มา คุณสมบัติใหม่ที่มีประโยชน์นี้จะช่วยให้เพื่อนๆสามารถเล่นเปียโนไปพร้อมๆกับเพลงโปรดของเราได้เลย สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นเปียโน ถ้าอยากเล่นเป็นได้เร็วคลิกอ่าน เรียนเปียโนอย่างไรให้เล่นเป็นเพลงได้เร็ว จะได้ไม่เสียเวลาฝึกไปเปล่าประโยชน์ค่ะ
PX-S1100 มาพร้อมกับระบบลําโพงที่ได้รับการอัพเกรดซึ่งเป็นการปรับปรุงที่โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ดังนั้นหากเพื่อนๆกําลังมองหาเปียโนราคาไม่แพงที่มีคุณภาพดีพร้อมการเชื่อมต่ออัจฉริยะอย่าพลาด Casio PX-S1100 ค่ะ
ราคาประมาณ 28,900 – 32,000 บาท
สนใจดูรายละเอียดสินค้า คลิกดูได้ที่ เปียโนไฟฟ้า Casio PX-1100
สำหรับเพื่อนๆที่อยากเรียนเปียโนโดยเรียนเป็นขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ลองเช็คคอร์สเรียน เล่นเปียโนป๊อบได้ภายใน 10 วัน แม้ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเล่นได้ค่ะ โดยครูจะสอนตัวอย่างเพลง 3 เพลงและนักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเพลงอื่นๆได้อีกเป็นพันๆเพลงเลยค่ะ
2. Roland FP-10
สนใจสามารถคลิกเพื่อดูสินค้าที่ลิงค์ เปียโน Roland FP-10 ได้เลยค่ะ สำหรับร้านนี้ราคาจะอยู่ที่ 19,600 บาท
สำหรับ Roland FP-10 นั้นเป็นเปียโนไฟฟ้าแบบฟูลไซส์ ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นเปียโนเลย คุณสมบัติที่โดดเด่นของ FP-10 คือคีย์บอร์ด PHA-4 ซึ่งมีมาตรฐานระดับเดียวกับรุ่นพี่อย่างรุ่น FP-30 ที่มีราคาแพงกว่า ทั้ง 88 คีย์นั้นมีการถ่วงน้ำหนักแยกทุกคีย์ ทำให้ได้อารมณ์เหมือนกับการเล่นเปียโนอะคุสติกจริงๆ
เทคโนโลยีเปียโน SuperNatural ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Roland ให้เสียงที่มีรายละเอียดและละเอียดอ่อนอย่างน่าอัศจรรย์ น่าเสียดายที่ลำโพงของรุ่นนี้นั้นไม่ดังเท่าที่ควรค่ะ ถ้าเอาไว้ซ้อมเฉยๆก็ไม่มีปัญหา แต่หากต้องการใช้สำหรับแสดงนั้นไม่ค่อยแนะนำค่ะ แต่รวมๆแล้วสำหรับราคานี้รุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่าเงินมากค่ะ
MIDI ผ่านทั้ง USB และ Bluetooth หมายความว่า FP-10 นั้นใช้ได้ดีกับแอพ Piano Partner 2 ที่เป็นแอพที่ยอดเยี่ยมของ Roland และยังสร้างคีย์บอร์ดคอนโทรลเลอร์ MIDI ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ราคา : ประมาณ 27,900 บาท
สนใจสามารถคลิกเพื่อดูสินค้าที่ลิงค์ เปียโน Roland FP-10 ได้เลยค่ะ สำหรับร้านนี้ราคาจะอยู่ที่ 19,600 บาท
3. Casio Privia PX-770
Privia PX-770 เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Compact Living เป็นเปียโนดิจิตอลสําหรับบ้านสไตล์คอนโซลที่มีราคาย่อมเยาที่สุดของ Casio เปียโนรุ่นนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนมีเปียโนอัพไรท์ตั้งอยู่ที่บ้านเลยค่ะ รูปลักษณ์มีความคล้ายคลึงกันอยู่ ไม่ว่าจะมีขาตั้งที่ดูมั่นคงแบบอัพไรท์ มี 3 เพดเดิลมาในตัวและฝาปิดรวมถึงมีที่วางโน้ตอีกด้วย
เปียโนรุ่นนี้มีแอคชันแบบหัวค้อน ซึ่งแบรนด์ Casio เขาเรียกว่า Tri-Sensor Scaled Hammer Action II นอกจากนี้ยังมีคีย์ที่พยายามจำลองคีย์แบบงาช้างและไม้มะเกลือ เพื่อให้ความรู้สึกในการเล่นที่เป็นธรรมชาติและไม่ลื่นเวลาที่เราเล่นเหมือนกับคีย์พลาสติก ในขณะเดียวกันเอ็นจิ้นเสียง AiR ที่แปรผันหลายมิติจะสร้างโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกเต็มอิ่มและลุ่มลึก รุ่นนี้มีเสียงของเปียโนอะคุสติกให้เลือก 5 แบบด้วยกันจากเสียงทั้งหมด 18 เสียง
ฟังก์ชั่น Concert Play มีเพลงคลาสสิค 10 เพลง ซึ่งเพื่อนๆสามารถเรียนและเล่นเพลงเหล่านี้ไปพร้อมๆกับ backing track ซึ่งมีวงออร์เคสตร้าเล่นประกอบด้วย PX-770 ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอพ Chordana Play ของ Casio ผ่านการเชื่อมต่อ USB ได้อีกด้วย
ราคา ประมาณ 43,000 บาท
4. Yamaha p 45
สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ YAMAHA P-45
เปียโนไฟฟ้า P-45 ของ Yamaha อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการขายดีมาเป็นเวลานาน เนื่องจากชื่อเสียงและประสบการณ์ในโลกของคีย์บอร์ดของ Yamaha นั้นไม่เป็นรองใคร และด้วยการรวมเทคโนโลยีการสุ่มตัวอย่าง Advanced Wave Modelling (AWM) ที่ผ่านการทดลองและทดสอบแล้วของแบรนด์
คีย์บอร์ด Graded Hammer Standard ที่ยอดเยี่ยมถ่วงน้ําหนักจากซ้ายไปขวาเหมือนเปียโนอะคุสติกจึงเหมาะสําหรับผู้เริ่มต้นเล่นเปียโนมากๆค่ะ
สำหรับครูคิดว่าทัชชิงของรุ่นนี้เบาไปหน่อยเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แต่หากเพื่อนๆเพิ่งจะเริ่มเข้าสู่โลกของเปียโนไฟฟ้า Yamaha P-45 ยังคงเป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ
ราคาประมาณ 26,900 บาท
สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ YAMAHA P-45
5. Kawai ES 120
สนใจเปียโนไฟฟ้า Kawai ES 120 สามารถกดดูรายละเอียดได้ ที่นี่
Kawai เป็นอีกตัวเลือกที่มีชื่อเสียงทั้งด้านเปียโนอะคุสติกและปียโนไฟฟ้า Kawai ES 120 เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวเมื่อเทียบกับเปียโนไฟฟ้าสำหรับผู้เริ่มต้นแบรนด์อื่นๆ รุ่นนี้มีโทนเสียง 25 โทน โดยเสียงอะคูสติกหลักเป็นเสียงแกรนด์เปียโนคอนเสิร์ต รุ่น Shigeru Kawai SK-EX (เปียโนขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับแสดงในฮอลล์คอนเสิร์ต) และโทนเสียงยังขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี Harmonic Imaging เพื่อเพิ่มความสมจริงในการเลียนแบบเสียงของแกรนด์เปียโนรุ่นนี้
ES110 มีการใช้เทคโนโลยี Responsive Hammer Compact ของ Kawai ซึ่งใช้หลักการเดียวกับการกระทํา RHIII ระดับไฮเอนด์ แต่ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้พอดีกับเคสขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้นของ ES120
มีจังหวะกลองที่แตกต่างกัน 100 จังหวะซึ่งเพื่อนๆสามารถเปิดควบคู่ขณะที่เล่นเพลงได้ นอกจากนี้ยังมี MIDI และออดิโอผ่าน Bluetooth ซึ่งเชื่อมต่อได้กับระบบ iOS และ Android รวมถึงยังสามารถใช้งานได้กับแอพ Virtual Technician ของ Kawai สําหรับการปรับแต่งพารามิเตอร์ขั้นสูงเช่นอารมณ์และการตอบสนองการสัมผัสค่ะ
ราคาประมาณ 37,400 บาท
สนใจเปียโนไฟฟ้า Kawai 120 สามารถกดดูรายละเอียดได้ ที่นี่
6. Roland GO:PIANO 88
สนใจดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Roland GO: PAINO 88
เปียโนขนาด 88 คีย์ที่มีน้ําหนักเพียง 7 กก. เพื่อนๆจึงสามารถเคลื่อนย้ายไปได้ทุกที่นอกจากนี้ยังใช้งานด้วยแบตเตอร์รี่อีกด้วย เปียโนไฟฟ้ารุ่น GO:PIANO 88 ของ Roland นั้นเหมาะมากสำหรับผู้เริ่มเล่นเปียโน ข้อเสียของรุ่นนี้คือทัชชิงของคีย์จะเป็นแบบกึ่งถ่วงน้ำหนัก คือเวลากดแล้วจะไม่มีน้ำหนักเท่าที่ควร จึงทำเสียงต่างๆได้ยาก แต่ก็เป็นข้อเสียที่ไม่หนักหนาสาหัสมากเมื่อเทียบกับคุณลักษณะด้านอื่นๆค่ะ
GO:PIANO 88 มีเสียงน้อยกว่า GO:PIANO 61 ซึ่งเป็นรุ่นที่เล็กกว่า มีให้เลือกเพียง 4 เสียง รุ่นนี้จะเน้นไปที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ เพราะเสียงของรุ่นนี้นั้นดีกว่าและมีพลังเสียงมากกว่า คุณภาพของลำโพงนั้นครูจัดให้อยู่ในอันดับที่ 2 ของลิสท์นี้เลยค่ะ สำหรับครูนั้นเวลาที่เลือกเปียโนไฟฟ้า ครูจะไม่สนใจเสียงว่ามีกี่เสียง ขอแค่เสียงของเปียโนนั้นเหมือนกับเปียโนอะคุสติกและโทนเสียงดีก็พอ
รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth และเชื่อมต่อ MIDI ได้ หมายความว่าเพื่อนๆสามารถเล่นเปียโนไปพร้อมกับเพลงที่สตรีมจากสมาร์ทโฟนได้และยังสามารถบันทึกการเล่นลงในแอพ Roland Piano Partner 2 ผ่าน Bluetooth ได้เช่นกันค่ะ
ราคาประมาณ 14,400 – 16,190 บาท
สนใจดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Roland GO: PAINO 88
7. Korg B2
สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ Korg B2
Korg B2 รุ่นนี้มีเสียงให้เลือก 12 เสียงโดยแต่ละเสียงนั้นมีคุณภาพสูงและมีทัชชิงแบบ Natural Weighted Hammer Action (NH) ซึ่งให้การตอบสนองที่เป็นธรรมชาติทำเล่นได้ง่ายและให้ความเพลิดเพลินในการเล่น ไม่ว่าเพื่อนๆจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพที่มีประสบการณ์ก็จะสนุกกับการเล่นเปียโนรุ่นนี้แน่นอนค่ะ
ทั้ง 12 เสียงในเปียโน korg นั้นครอบคลุมสไตล์ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง รวมถึงเสียงเปียโนที่ไพเราะอีก 5 เสียงด้วยกันค่ะ
เช่นเดียวกับเปียโนอื่น ๆ เปียโนไฟฟ้า Korg B2 มาพร้อมกับเอาต์พุตหูฟังสําหรับการฝึกตอนกลางคืน รวมถึงยังมีเพดเดิลที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องได้อีกด้วย
ราคาประมาณ 16,200 – 18,000 บาท
สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ Korg B2
8. Yamaha Arius YDP-S55
สำหรับครูนั้นชื่นชอบเปียโนรุ่น Arius YDP เป็นพิเศษ เพราะครูก็มีเปียโน Arius YDP เช่นกัน แต่ของครูจะเป็นรุ่น YDP 145 ที่ครูชื่นชอบเปียโนรุ่นนี้ก็เพราะว่าน้ำเสียงของเปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ให้เสียงที่ไพเราะมาก เหมือนกับเปียโนอะคุสติกเลย ครูใช้เปียโนรุ่นนี้อัดเสียงแทนการใช้แกรนด์เปียโนอยู่บ่อยครั้งเนื่องจาก เปียโนไฟฟ้านั้นอัดเสียงง่ายและเสียงชัดมากกว่าการอัดจากเปียโนอะคุสติก ลองเข้าไปฟังได้จากยูทูปด้านล่างค่ะ
คีย์เปียโนของรุ่นนี้นั้นจะเป็น GH3 และระบบลําโพงที่ได้รับการอัพเกรดเสียงโดยมีต้นแบบมาจากเปียโนแกรนด์คอนเสิร์ต CFX ของ Yamaha CFX ครูถึงได้บอกว่าเสียงดีมากๆ รุ่นนี้มี polyphony 192 โน้ตและขาตั้งตู้ที่มีฝาปิดพร้อมการ pedeal สามคันเหยียบ ทัชชิงของรุ่นนี้ถือว่าดีกว่า Yamaha p45 และ p 125 ซึ่งครูก็เคยมีรุ่น p125 เช่นกัน แต่เล่นแล้วไม่ค่อยฟินเท่าที่ควรค่ะ
สำหรับเปียโนไฟฟ้า Yamaha Arius YDP นี้ มีให้เลือกทั้งสีดําและสีขาว การตอบสนองพิเศษของแป้นคีย์ ระบบ GH3 และระบบลําโพงที่ได้รับการอัพเกรดทําให้ S55 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า S35 สําหรับผู้ที่ไม่มีพื้นที่สําหรับรุ่นขนาดเต็มค่ะ ข้อเสียของรุ่นนี้ก็จะเป็นที่น้ำหนักค่อนข้างเยอะ เคลื่อนย้ายไม่สะดวกค่ะและราคาค่อนข้างแพงกว่ารุ่นอื่นๆ
ราคาประมาณ 39,900 บาท
9. Casio CDP-S110
ในฐานะที่เป็นเปียโนดิจิตอลระดับเริ่มต้นจาก Casio เปียโนไฟฟ้ารุ่น CDP-S110 เป็นการนําคีย์บอร์ด 88 คีย์ที่ใช้ระบบแอคชันแบบหัวค้อน Tri-Sensor Scaled Hammer Action II เหมือนกับรุ่น Casio Privia PX-770 และมีการถ่วงน้ำหนักคีย์ด้วย ซึ่งถือได้ว่าฟังก์ชันนั้นค่อนข้างครบเลยทีเดียวสำหรับราคานี้
มีเสียงเปียโนอะคุสติก 3 เสียงที่มีการพัฒนามาจาก CDP รุ่นก่อนๆ ซึ่งจัดว่าดีมากพอสำหรับนักเปียโนมือใหม่เลยค่ะ แม้ว่าในช่วงเสียงต่ำไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่เปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้มีข้อดีอย่างหนึ่งคือ เราสามารถใช้แบตเตอรีได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเล่นที่ไหนก็ไม่มีปัญหาเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีแจ็คอินพุตที่สามารถต่อได้จากคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ เราจึงสามารถเปิดเพลงและเล่นไปพร้อมๆกันได้เลย
ราคาประมาณ 17,900 – 22,900 บาท
สนใจคลิกได้ที่ลิงค์ Casio CDP-S110
10. Yamaha P-125
สนใจเปียโนรุ่นนี้ + เก้าอี้+เพดเดิล (ราคา 32,900) คลิกได้ ที่นี่ สนใจเปียโนรุ่นนี้ ไม่มีอุปกรณ์เสริม (ราคา 29,900) คลิกได้ ที่นี่ สนใจเปียโนสีขาวคลิกได้ ที่นี่
รุ่นนี้เป็นรุ่นพี่ของ P-45 โดย Yamaha P-125 มีคีย์ระบบแอคชันแบบ Graded Hammer Standard แบบเดียวกับ Stablemate P-125 ทําให้คุณภาพเสียงและทัชิชงดีขึ้นกว่าตัว p-45 เล็กน้อย
รุ่นนี้มีโพลีโฟนีสูงสุด 192 โน้ตให้โทนเสียงเปียโนที่สมจริงเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยัง มีจังหวะเพิ่มเติมอีก 20 จังหวะ ซึ่งหากใครไม่อยากใช้เมโทรโนมในการฝึกก็สามารถเปลี่ยนจังหวะต่างๆได้
รุ่นนี้มีเอาต์พุตหูฟังคู่จึงเหมาะในการใช้สอนกลุ่ม นอกจากนี้ Yamaha p-125 ยังสามารถใช้ร่วมกับแอพ Smart Pianist ฟรีของ Yamaha สําหรับอุปกรณ์ iOSได้อีกด้วย
ความเห็นส่วนตัวของครูจากประสบการณ์ใช้ p-125 มานั้น ครูคิดว่าทัชชิงนั้นดีกว่า p45 เล็กน้อยเท่านั้น หากนักเรียนเน้นเอาไว้ฝึกเล่นแทนเปียโนอะคุสติกล่ะก็ครูก็ไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้มากนัก ส่วนเรื่องของลำโพงนั้น รุ่นนี้มีเสียงค่อนข้างเบาถ้าเทียบกับรุ่น Arius YDP นอกจากนี้ยังทำไดนามิก (ความดังเบา) ไม่ได้มาก แต่รุ่นนี้ก็ราคาถูกกว่า YDP พอสมควร หากเพื่อนๆมีงบจำกัด รุ่นนี้ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ แต่หากสามารถเพิ่มบัดเจทมากขึ้น ถ้าจะเล่น Yamaha ครูคิดว่ารุ่น YDP ดีที่สุดค่ะ
ราคาประมาณ 33,000 บาท
สนใจเปียโนรุ่นนี้ + เก้าอี้+เพดเดิล (ราคา 32,900) คลิกได้ ที่นี่ สนใจเปียโนรุ่นนี้ ไม่มีอุปกรณ์เสริม (ราคา 29,900) คลิกได้ ที่นี่ สนใจเปียโนสีขาวคลิกได้ ที่นี่
เป็นอย่างไรบ้างคะกับตัวเลือกทั้ง 10 นี้ ตรงกับใจของใครบ้างมั้ยเอ่ย หากเพื่อนๆยังไม่แน่ใจว่าจะลงทุนซื้อเปียโนไฟฟ้าดีหรือไม่ คลิกอ่านบทความ เริ่มเรียนเปียโนควรซื้อเปียโนเลยมั้ย การซื้อเปียโนนั้นคุ้มค่าหรือไม่ เอาล่ะค่ะครูขอจบบทความนี้ไว้เท่านี้ พบกันใหม่กับบทความหน้าค่ะ
Leave a Reply