10 รุ่นเปียโนไฟฟ้าสําหรับผู้เริ่มต้น 2023- พร้อมตารางเปรีบเทียบ

กำลังมองหาเปียโนไฟฟ้ากันอยู่รึเปล่าคะ สำหรับนักเรียนที่เริ่มเรียนเปียโนหรือคีย์บอร์ด หากไม่ต้องการลงทุนค่าเครื่องดนตรีมาก หากเราหาเปียโนไฟฟ้าหรือเปียโนอะคุสติกมือ 2 มาใช้ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก หากเพื่อนๆสนใจเปียโนอะคุสติกมือ 2 คลิกอ่าน ซื้อเปียโนมือ 2 ร้านไหนดี หรือหากใครสนใจเป็นเปียโนไฟฟ้ามาอ่านกันต่อในบทความนี้กันเลยค่ะ

วันนี้ครูเปรียบเทียบเปียโนที่ได้รับความนิยมทั้ง 10 รุ่น ซึ่งเหมาะกับนักเรียนเปียโนระดับต้น จะได้เห็นกันชัดๆว่าเปียโนไฟฟ้ารุ่นไหนตอบโจทย์เราได้มากที่สุดค่ะ

รุ่นเปียโนราคา /บาทคีย์/แอคชันจำนวนเสียงลำโพง/ Bluetoothการเชื่อมต่อน้ำหนัก kg/ขนาด cm
1. Casio
PX-S1100
28,900 32,000 -88 คีย์
-ถ่วงน้ำหนัก
-hammer action
-18 เสียง
polyphony: 192
8 วัตต์
Bluetooth : Audio/Midi
-หูฟัง 2 ตัว
-pedal input
-พอร์ต USB, Line-out L/R โมโน
-11.4 kg
-132.2×23.2×10.2
2. Roland FP-1027,900 -88 คีย์
-ถ่วงน้ำหนัก
 -เลียนแบบคีย์งาช้าง
-เปียโน 4 เสียง เปียโนไฟฟ้า 2 เสียงและเสียงอื่นๆอีกมากมาย
-polyphony 96
2 x 7 วัตต์
Bluetooth: MIDI/Audio
-เชื่อมต่อด้วย USB
pedal input -เอาต์พุตมินิแจ็คหูฟังสเตอริโอ 3.5 มม
– 12.3 kg
-128.4×25.8x 14
3. Casio Privia PX-77043,000-88 คีย์
-ถ่วงน้ำหนัก
-Tri-Sensor Scaled Hammer Action II
19 เสียง
polyphony: 128
-8 วัตต์
-ไม่มี Bluetooth
-เชื่อมต่อด้วย USB
2 x stereo multi-use (headphone / line out) output
– 31.5 kg
-139.1 x 29.9 x 79.8
4. Yamaha
p 45
26,900-88 คีย์
-ถ่วงน้ำหนัก
-Graded Hammer Standard (GHS)
10 เสียง
polyphony: 64
– 6 วัตต์
– ไม่มี Bluetooth
-เชื่อมต่อด้วย USB
-Sustain Pedal Input
– Stereo headphone output
– 11.5 kg
-132.6 x 29.5 x 15.4
5. Kawai
ES 120
29,900 -88 คีย์
-ถ่วงน้ำหนัก
-Responsive Hammer Compac
25 เสียง
polyphony: 192
-2 x 7วัตต์
Bluetooth: MIDI/Audio
MIDI In/Out, 2 x 6.3mm headphone output, Line Out (L/R/Mono), Sustain pedal input– 18 kg
– 145 x 37 x 26.5
6. Roland GO:PIANO 88 14,400 – 16,190– 88 คีย์
– กึ่งถ่วงน้ำหนัก
4 เสียง
polyphony: 
128
10 วัตต์
Bluetooth: Audio / MIDI
-เชื่อมต่อด้วย USB
– 6.3mm headphone output
– pedal input
– 7.0 kg
– 128.3 x 291 x 87
7. Korg B216,200 – 18,000 – 88 คีย์
-ไม่ถ่วงน้ำหนัก
12 เสียง
polyphony: 
120
15 วัตต์
– ไม่มี Bluetooth
-เชื่อมต่อด้วย USB
– pedal input Combined Headphone / Line Output
– 9.3 kg
-131.2 x 33.6 x 11.7
8. Yamaha Arius YDP-S55 39,900– 88 คีย์
-ถ่วงน้ำหนัก
Graded Hammer Standard (GHS)
10 เสียง
polyphony: 
192
– 8 วัตต์
– ไม่มี Bluetooth
– เชื่อมต่อด้วย USB
– 2 x stereo headphone output
– 35.9 kg
– 1353 x 296 x 792
9. Casio CDP-S11017,900 – 22,900– 88 คีย์
-ถ่วงน้ำหนัก
– Tri-Sensor Scaled Hammer Action II
10 เสียง polyphony 64 – 8 วัตต์
– ไม่มี Bluetooth
– เชื่อมต่อด้วย USB
– headphone output, Sustain pedal input, 3.5mm stereo aux input
– 10.5 kg
– 1322 x 232 x 99
10. Yamaha P-12533,000– 88 คีย์
-ถ่วงน้ำหนัก
– Graded Hammer Standard (GHS)
24 เสียง
polyphony 192
– 7 วัตต์
– ไม่มี Bluetooth

– เชื่อมต่อด้วย USB
– 2 x 6.3 mm line output stereo jack, 2 x 6.3mm stereo headphone outputs
– pedal input connector for LP-1 pedal unit
– 11.8 kg
– 1326 x 295 x 166

เพื่อนๆที่หัดเรียนเปียโนด้วยตัวเองแต่ยังอ่านโน้ตไม่ได้ครูมี คอร์สสอนการอ่านโน้ตฉบับสมบูรณ์ ซึ่งมีแบบฝึกหัดทั้งออนไลน์และดาวน์โหลดไปฝึกมากกว่า 1000 ข้อ รับรองว่าหากเรียนจบคอร์สแล้วจะสามารถอ่านโน้ตได้อย่างคล่องแคล่วเลยค่ะ สำหรับใครที่อ่านได้แล้ว เราไปดูรายละเอียดของเปียโนไฟฟ้าแต่ละรุ่นกันต่อเลยค่ะ

1. Casio PX-S1100

สนใจดูรายละเอียดสินค้า คลิกดูได้ที่ เปียโนไฟฟ้า Casio PX-1100

รุ่นนี้เป็นการอัพเกรดจากรุ่น S1000 ที่เพื่อนๆหลายๆคนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับ PX-S1100 รุ่นใหม่นี้มีการเพิ่มคุณสมบัติที่ทันสมัยตามความต้องการของนักเปียโนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน เปียโนคีย์ที่ถ่วงน้ําหนักเต็ม 88 โน้ตนี้เหมาะสําหรับเพื่อนๆที่ต้องการมองหาเครื่องดนตรีราคาไม่แพงแต่คุณภาพเต็มเปี่ยม

สิ่งใหม่สําหรับ S1100 คือความสามารถในการสตรีมเสียงและ MIDI แบบไร้สายผ่านอะแดปเตอร์ USB WU-BT10 ที่ให้มา คุณสมบัติใหม่ที่มีประโยชน์นี้จะช่วยให้เพื่อนๆสามารถเล่นเปียโนไปพร้อมๆกับเพลงโปรดของเราได้เลย สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นเปียโน ถ้าอยากเล่นเป็นได้เร็วคลิกอ่าน เรียนเปียโนอย่างไรให้เล่นเป็นเพลงได้เร็ว จะได้ไม่เสียเวลาฝึกไปเปล่าประโยชน์ค่ะ

PX-S1100 มาพร้อมกับระบบลําโพงที่ได้รับการอัพเกรดซึ่งเป็นการปรับปรุงที่โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ดังนั้นหากเพื่อนๆกําลังมองหาเปียโนราคาไม่แพงที่มีคุณภาพดีพร้อมการเชื่อมต่ออัจฉริยะอย่าพลาด Casio PX-S1100 ค่ะ

ราคาประมาณ 28,900 – 32,000 บาท

สนใจดูรายละเอียดสินค้า คลิกดูได้ที่ เปียโนไฟฟ้า Casio PX-1100

สำหรับเพื่อนๆที่อยากเรียนเปียโนโดยเรียนเป็นขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ลองเช็คคอร์สเรียน เล่นเปียโนป๊อบได้ภายใน 10 วัน แม้ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเล่นได้ค่ะ โดยครูจะสอนตัวอย่างเพลง 3 เพลงและนักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเพลงอื่นๆได้อีกเป็นพันๆเพลงเลยค่ะ

2. Roland FP-10

สนใจสามารถคลิกเพื่อดูสินค้าที่ลิงค์ เปียโน Roland FP-10 ได้เลยค่ะ สำหรับร้านนี้ราคาจะอยู่ที่ 19,600 บาท

สำหรับ Roland FP-10 นั้นเป็นเปียโนไฟฟ้าแบบฟูลไซส์ ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นเปียโนเลย คุณสมบัติที่โดดเด่นของ FP-10 คือคีย์บอร์ด PHA-4 ซึ่งมีมาตรฐานระดับเดียวกับรุ่นพี่อย่างรุ่น FP-30 ที่มีราคาแพงกว่า ทั้ง 88 คีย์นั้นมีการถ่วงน้ำหนักแยกทุกคีย์ ทำให้ได้อารมณ์เหมือนกับการเล่นเปียโนอะคุสติกจริงๆ

เทคโนโลยีเปียโน SuperNatural ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Roland ให้เสียงที่มีรายละเอียดและละเอียดอ่อนอย่างน่าอัศจรรย์ น่าเสียดายที่ลำโพงของรุ่นนี้นั้นไม่ดังเท่าที่ควรค่ะ ถ้าเอาไว้ซ้อมเฉยๆก็ไม่มีปัญหา แต่หากต้องการใช้สำหรับแสดงนั้นไม่ค่อยแนะนำค่ะ แต่รวมๆแล้วสำหรับราคานี้รุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่าเงินมากค่ะ

MIDI ผ่านทั้ง USB และ Bluetooth หมายความว่า FP-10 นั้นใช้ได้ดีกับแอพ Piano Partner 2 ที่เป็นแอพที่ยอดเยี่ยมของ Roland และยังสร้างคีย์บอร์ดคอนโทรลเลอร์ MIDI ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

ราคา : ประมาณ 27,900 บาท

สนใจสามารถคลิกเพื่อดูสินค้าที่ลิงค์ เปียโน Roland FP-10 ได้เลยค่ะ สำหรับร้านนี้ราคาจะอยู่ที่ 19,600 บาท

3. Casio Privia PX-770

Privia PX-770 เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Compact Living เป็นเปียโนดิจิตอลสําหรับบ้านสไตล์คอนโซลที่มีราคาย่อมเยาที่สุดของ Casio เปียโนรุ่นนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนมีเปียโนอัพไรท์ตั้งอยู่ที่บ้านเลยค่ะ รูปลักษณ์มีความคล้ายคลึงกันอยู่ ไม่ว่าจะมีขาตั้งที่ดูมั่นคงแบบอัพไรท์ มี 3 เพดเดิลมาในตัวและฝาปิดรวมถึงมีที่วางโน้ตอีกด้วย

เปียโนรุ่นนี้มีแอคชันแบบหัวค้อน ซึ่งแบรนด์ Casio เขาเรียกว่า Tri-Sensor Scaled Hammer Action II นอกจากนี้ยังมีคีย์ที่พยายามจำลองคีย์แบบงาช้างและไม้มะเกลือ เพื่อให้ความรู้สึกในการเล่นที่เป็นธรรมชาติและไม่ลื่นเวลาที่เราเล่นเหมือนกับคีย์พลาสติก ในขณะเดียวกันเอ็นจิ้นเสียง AiR ที่แปรผันหลายมิติจะสร้างโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกเต็มอิ่มและลุ่มลึก รุ่นนี้มีเสียงของเปียโนอะคุสติกให้เลือก 5 แบบด้วยกันจากเสียงทั้งหมด 18 เสียง

ฟังก์ชั่น Concert Play มีเพลงคลาสสิค 10 เพลง ซึ่งเพื่อนๆสามารถเรียนและเล่นเพลงเหล่านี้ไปพร้อมๆกับ backing track ซึ่งมีวงออร์เคสตร้าเล่นประกอบด้วย PX-770 ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอพ Chordana Play ของ Casio ผ่านการเชื่อมต่อ USB ได้อีกด้วย

ราคา ประมาณ 43,000 บาท

4. Yamaha p 45

สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ YAMAHA P-45

เปียโนไฟฟ้า P-45 ของ Yamaha อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการขายดีมาเป็นเวลานาน เนื่องจากชื่อเสียงและประสบการณ์ในโลกของคีย์บอร์ดของ Yamaha นั้นไม่เป็นรองใคร และด้วยการรวมเทคโนโลยีการสุ่มตัวอย่าง Advanced Wave Modelling (AWM) ที่ผ่านการทดลองและทดสอบแล้วของแบรนด์

คีย์บอร์ด Graded Hammer Standard ที่ยอดเยี่ยมถ่วงน้ําหนักจากซ้ายไปขวาเหมือนเปียโนอะคุสติกจึงเหมาะสําหรับผู้เริ่มต้นเล่นเปียโนมากๆค่ะ

สำหรับครูคิดว่าทัชชิงของรุ่นนี้เบาไปหน่อยเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แต่หากเพื่อนๆเพิ่งจะเริ่มเข้าสู่โลกของเปียโนไฟฟ้า Yamaha P-45 ยังคงเป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ

ราคาประมาณ 26,900 บาท

สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ YAMAHA P-45

5. Kawai ES 120

สนใจเปียโนไฟฟ้า Kawai ES 120 สามารถกดดูรายละเอียดได้ ที่นี่

Kawai เป็นอีกตัวเลือกที่มีชื่อเสียงทั้งด้านเปียโนอะคุสติกและปียโนไฟฟ้า Kawai ES 120 เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวเมื่อเทียบกับเปียโนไฟฟ้าสำหรับผู้เริ่มต้นแบรนด์อื่นๆ รุ่นนี้มีโทนเสียง 25 โทน โดยเสียงอะคูสติกหลักเป็นเสียงแกรนด์เปียโนคอนเสิร์ต รุ่น Shigeru Kawai SK-EX (เปียโนขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับแสดงในฮอลล์คอนเสิร์ต) และโทนเสียงยังขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี Harmonic Imaging เพื่อเพิ่มความสมจริงในการเลียนแบบเสียงของแกรนด์เปียโนรุ่นนี้

ES110 มีการใช้เทคโนโลยี Responsive Hammer Compact ของ Kawai ซึ่งใช้หลักการเดียวกับการกระทํา RHIII ระดับไฮเอนด์ แต่ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้พอดีกับเคสขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้นของ ES120

มีจังหวะกลองที่แตกต่างกัน 100 จังหวะซึ่งเพื่อนๆสามารถเปิดควบคู่ขณะที่เล่นเพลงได้ นอกจากนี้ยังมี MIDI และออดิโอผ่าน Bluetooth ซึ่งเชื่อมต่อได้กับระบบ iOS และ Android รวมถึงยังสามารถใช้งานได้กับแอพ Virtual Technician ของ Kawai สําหรับการปรับแต่งพารามิเตอร์ขั้นสูงเช่นอารมณ์และการตอบสนองการสัมผัสค่ะ

ราคาประมาณ 37,400 บาท

สนใจเปียโนไฟฟ้า Kawai 120 สามารถกดดูรายละเอียดได้ ที่นี่

6. Roland GO:PIANO 88 

สนใจดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Roland GO: PAINO 88

เปียโนขนาด 88 คีย์ที่มีน้ําหนักเพียง 7 กก. เพื่อนๆจึงสามารถเคลื่อนย้ายไปได้ทุกที่นอกจากนี้ยังใช้งานด้วยแบตเตอร์รี่อีกด้วย เปียโนไฟฟ้ารุ่น GO:PIANO 88 ของ Roland นั้นเหมาะมากสำหรับผู้เริ่มเล่นเปียโน ข้อเสียของรุ่นนี้คือทัชชิงของคีย์จะเป็นแบบกึ่งถ่วงน้ำหนัก คือเวลากดแล้วจะไม่มีน้ำหนักเท่าที่ควร จึงทำเสียงต่างๆได้ยาก แต่ก็เป็นข้อเสียที่ไม่หนักหนาสาหัสมากเมื่อเทียบกับคุณลักษณะด้านอื่นๆค่ะ

GO:PIANO 88 มีเสียงน้อยกว่า GO:PIANO 61 ซึ่งเป็นรุ่นที่เล็กกว่า มีให้เลือกเพียง 4 เสียง รุ่นนี้จะเน้นไปที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ เพราะเสียงของรุ่นนี้นั้นดีกว่าและมีพลังเสียงมากกว่า คุณภาพของลำโพงนั้นครูจัดให้อยู่ในอันดับที่ 2 ของลิสท์นี้เลยค่ะ สำหรับครูนั้นเวลาที่เลือกเปียโนไฟฟ้า ครูจะไม่สนใจเสียงว่ามีกี่เสียง ขอแค่เสียงของเปียโนนั้นเหมือนกับเปียโนอะคุสติกและโทนเสียงดีก็พอ

รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth และเชื่อมต่อ MIDI ได้ หมายความว่าเพื่อนๆสามารถเล่นเปียโนไปพร้อมกับเพลงที่สตรีมจากสมาร์ทโฟนได้และยังสามารถบันทึกการเล่นลงในแอพ Roland Piano Partner 2 ผ่าน Bluetooth ได้เช่นกันค่ะ

ราคาประมาณ 14,400 – 16,190 บาท

สนใจดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Roland GO: PAINO 88

7. Korg B2

สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ Korg B2

Korg B2 รุ่นนี้มีเสียงให้เลือก 12 เสียงโดยแต่ละเสียงนั้นมีคุณภาพสูงและมีทัชชิงแบบ Natural Weighted Hammer Action (NH) ซึ่งให้การตอบสนองที่เป็นธรรมชาติทำเล่นได้ง่ายและให้ความเพลิดเพลินในการเล่น ไม่ว่าเพื่อนๆจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพที่มีประสบการณ์ก็จะสนุกกับการเล่นเปียโนรุ่นนี้แน่นอนค่ะ

ทั้ง 12 เสียงในเปียโน korg นั้นครอบคลุมสไตล์ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง รวมถึงเสียงเปียโนที่ไพเราะอีก 5 เสียงด้วยกันค่ะ

เช่นเดียวกับเปียโนอื่น ๆ เปียโนไฟฟ้า Korg B2 มาพร้อมกับเอาต์พุตหูฟังสําหรับการฝึกตอนกลางคืน รวมถึงยังมีเพดเดิลที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องได้อีกด้วย

ราคาประมาณ 16,200 – 18,000 บาท

สนใจดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ Korg B2

8. Yamaha Arius YDP-S55

สำหรับครูนั้นชื่นชอบเปียโนรุ่น Arius YDP เป็นพิเศษ เพราะครูก็มีเปียโน Arius YDP เช่นกัน แต่ของครูจะเป็นรุ่น YDP 145 ที่ครูชื่นชอบเปียโนรุ่นนี้ก็เพราะว่าน้ำเสียงของเปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ให้เสียงที่ไพเราะมาก เหมือนกับเปียโนอะคุสติกเลย ครูใช้เปียโนรุ่นนี้อัดเสียงแทนการใช้แกรนด์เปียโนอยู่บ่อยครั้งเนื่องจาก เปียโนไฟฟ้านั้นอัดเสียงง่ายและเสียงชัดมากกว่าการอัดจากเปียโนอะคุสติก ลองเข้าไปฟังได้จากยูทูปด้านล่างค่ะ

คีย์เปียโนของรุ่นนี้นั้นจะเป็น GH3 และระบบลําโพงที่ได้รับการอัพเกรดเสียงโดยมีต้นแบบมาจากเปียโนแกรนด์คอนเสิร์ต CFX ของ Yamaha CFX ครูถึงได้บอกว่าเสียงดีมากๆ รุ่นนี้มี polyphony 192 โน้ตและขาตั้งตู้ที่มีฝาปิดพร้อมการ pedeal สามคันเหยียบ ทัชชิงของรุ่นนี้ถือว่าดีกว่า Yamaha p45 และ p 125 ซึ่งครูก็เคยมีรุ่น p125 เช่นกัน แต่เล่นแล้วไม่ค่อยฟินเท่าที่ควรค่ะ

สำหรับเปียโนไฟฟ้า Yamaha Arius YDP นี้ มีให้เลือกทั้งสีดําและสีขาว การตอบสนองพิเศษของแป้นคีย์ ระบบ GH3 และระบบลําโพงที่ได้รับการอัพเกรดทําให้ S55 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า S35 สําหรับผู้ที่ไม่มีพื้นที่สําหรับรุ่นขนาดเต็มค่ะ ข้อเสียของรุ่นนี้ก็จะเป็นที่น้ำหนักค่อนข้างเยอะ เคลื่อนย้ายไม่สะดวกค่ะและราคาค่อนข้างแพงกว่ารุ่นอื่นๆ

ราคาประมาณ 39,900 บาท

9. Casio CDP-S110

ในฐานะที่เป็นเปียโนดิจิตอลระดับเริ่มต้นจาก Casio เปียโนไฟฟ้ารุ่น CDP-S110 เป็นการนําคีย์บอร์ด 88 คีย์ที่ใช้ระบบแอคชันแบบหัวค้อน Tri-Sensor Scaled Hammer Action II เหมือนกับรุ่น Casio Privia PX-770 และมีการถ่วงน้ำหนักคีย์ด้วย ซึ่งถือได้ว่าฟังก์ชันนั้นค่อนข้างครบเลยทีเดียวสำหรับราคานี้

มีเสียงเปียโนอะคุสติก 3 เสียงที่มีการพัฒนามาจาก CDP รุ่นก่อนๆ ซึ่งจัดว่าดีมากพอสำหรับนักเปียโนมือใหม่เลยค่ะ แม้ว่าในช่วงเสียงต่ำไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่เปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้มีข้อดีอย่างหนึ่งคือ เราสามารถใช้แบตเตอรีได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเล่นที่ไหนก็ไม่มีปัญหาเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีแจ็คอินพุตที่สามารถต่อได้จากคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ เราจึงสามารถเปิดเพลงและเล่นไปพร้อมๆกันได้เลย

ราคาประมาณ  17,900 – 22,900 บาท

สนใจคลิกได้ที่ลิงค์ Casio CDP-S110

10. Yamaha P-125

สนใจเปียโนรุ่นนี้ + เก้าอี้+เพดเดิล (ราคา 32,900) คลิกได้ ที่นี่ สนใจเปียโนรุ่นนี้ ไม่มีอุปกรณ์เสริม (ราคา 29,900) คลิกได้ ที่นี่ สนใจเปียโนสีขาวคลิกได้ ที่นี่

รุ่นนี้เป็นรุ่นพี่ของ P-45 โดย Yamaha P-125 มีคีย์ระบบแอคชันแบบ Graded Hammer Standard แบบเดียวกับ Stablemate P-125 ทําให้คุณภาพเสียงและทัชิชงดีขึ้นกว่าตัว p-45 เล็กน้อย

รุ่นนี้มีโพลีโฟนีสูงสุด 192 โน้ตให้โทนเสียงเปียโนที่สมจริงเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยัง มีจังหวะเพิ่มเติมอีก 20 จังหวะ ซึ่งหากใครไม่อยากใช้เมโทรโนมในการฝึกก็สามารถเปลี่ยนจังหวะต่างๆได้

รุ่นนี้มีเอาต์พุตหูฟังคู่จึงเหมาะในการใช้สอนกลุ่ม นอกจากนี้ Yamaha p-125 ยังสามารถใช้ร่วมกับแอพ Smart Pianist ฟรีของ Yamaha สําหรับอุปกรณ์ iOSได้อีกด้วย

ความเห็นส่วนตัวของครูจากประสบการณ์ใช้ p-125 มานั้น ครูคิดว่าทัชชิงนั้นดีกว่า p45 เล็กน้อยเท่านั้น หากนักเรียนเน้นเอาไว้ฝึกเล่นแทนเปียโนอะคุสติกล่ะก็ครูก็ไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้มากนัก ส่วนเรื่องของลำโพงนั้น รุ่นนี้มีเสียงค่อนข้างเบาถ้าเทียบกับรุ่น Arius YDP นอกจากนี้ยังทำไดนามิก (ความดังเบา) ไม่ได้มาก แต่รุ่นนี้ก็ราคาถูกกว่า YDP พอสมควร หากเพื่อนๆมีงบจำกัด รุ่นนี้ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ แต่หากสามารถเพิ่มบัดเจทมากขึ้น ถ้าจะเล่น Yamaha ครูคิดว่ารุ่น YDP ดีที่สุดค่ะ

ราคาประมาณ 33,000 บาท

สนใจเปียโนรุ่นนี้ + เก้าอี้+เพดเดิล (ราคา 32,900) คลิกได้ ที่นี่ สนใจเปียโนรุ่นนี้ ไม่มีอุปกรณ์เสริม (ราคา 29,900) คลิกได้ ที่นี่ สนใจเปียโนสีขาวคลิกได้ ที่นี่

เป็นอย่างไรบ้างคะกับตัวเลือกทั้ง 10 นี้ ตรงกับใจของใครบ้างมั้ยเอ่ย หากเพื่อนๆยังไม่แน่ใจว่าจะลงทุนซื้อเปียโนไฟฟ้าดีหรือไม่ คลิกอ่านบทความ เริ่มเรียนเปียโนควรซื้อเปียโนเลยมั้ย การซื้อเปียโนนั้นคุ้มค่าหรือไม่ เอาล่ะค่ะครูขอจบบทความนี้ไว้เท่านี้ พบกันใหม่กับบทความหน้าค่ะ


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *