จากประสบการณ์ที่เปิดโรงเรียนดนตรีมา 15 ปี คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตของนักเรียนและผู้ปกครองเลยทีเดียวค่ะ วันนี้ครูจะมาตอบกันอีกรอบให้กระจ่างแบบถึงบางอ้อกันไปเลยนะคะว่ากีตาร์โปร่งกับกีตาร์คลาสสิคต่างกันตรงไหนบ้าง
กีตาร์โปร่งกับกีตาร์คลาสสิคต่างกันตรงที่ กีตาร์โปร่งจะใช้สายลวด คอแคบกว่าและเสียงดังกว่า เน้นการเล่นแบบตีคอร์ด ส่วนกีต้าร์คลาคสิคจะใช้สายเอ็น คอกว้างกว่า เสียงนุ่มและเบากว่า เน้นการเล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์
ประเภทของกีตาร์ | คอกีตาร์ | สายกีตาร์– เสียงกีตาร์ | ไสตล์เพลง |
กีตาร์โปร่ง | คอกีตาร์มีขนาดเล็กกว่า | ใช้สายลวด – เสียงดังกังวาน | เน้นตีคอร์ด |
กีตาร์คลาสสิค | คอกีตาร์มีขนาดใหญ่กว่า | ใช้สายเอ็น- เสียงนุ่มเบา | เน้นเล่นฟิงเกอร์สไตล์ |
ได้คอนเซ็บท์คร่าวๆแล้วทีนี้ลองมาเจาะลึกกันดีกว่าว่าความแตกต่างเหล่านี้มันมีรายละเอียดอะไรบ้างและสไตล์เพลงแบบไหนเหมาะกับกีตาร์ทั้งสองแบบนี้
กีตาร์ทั้งสองอย่างนี้เป็นกีตาร์อะคูสติคซึ่งหมายความว่าเราจะไม่เสียบปลั๊กเวลาเล่นนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีคนออกแบบให้กีตาร์โปร่งและกีตาร์คลาสสิคสามารถเสียบสายต่อกับลำโพงได้ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงแบบอะคูสติกกันอย่างเดียวนะคะ
คอของกีตาร์โปร่งล็กกว่าคอของกีตาร์คลาสสิค
คอกีตาร์ – คอกีตาร์คลาสสิคจะมีขนาดใหญ่กว่าคอกีตาร์โปร่งค่อนข้างมากพอสมควร ดังนั้นเวลาที่เรากดทาบคอร์ดเราจะต้องใช้พื้นที่ของนิ้วมากกว่าในการเล่นกีตาร์คลาสสิค หมายความง่ายๆเลยว่าถ้านิ้วสั้นมากก็อาจจะกดไม่ถึงได้ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะเพราะว่ามีการผลิตกีตาร์คลาสสิคขนาดเล็กขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ สำหรับเด็กๆหรือคนที่มีนิ้วสั้นที่อยากเล่นกีตาร์คลาสสิคก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปค่ะ แค่เข้าไปที่ร้านและถามหากีตาร์คลาสสิคขนาดเล็กได้เลยค่ะแต่ถ้าทางร้านไม่ได้นำมาขายเราก็สามารถสั่งจากอินเตอร์เน็ตได้ไม่มีปัญหาค่ะ
เปรียบเทียบขนาดคอของกีตาร์โปร่ง (ด้านซ้าย) และกีตาร์คลาสสิค (ด้านขวา)
อีกเรื่องที่อยากพูดถึงคือเวลาที่เราซื้อคาร์โป้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้รัดคอกีตาร์เพื่อช่วยในการเล่นคอร์ดทาบ เราต้องเลือกให้เหมาะกับกีตาร์ที่เราซื้อ เพราะกีตาร์คลาสสิคมีคอที่ใหญ่กว่าดังนั้นคาร์โป้ก็จะต้องมีขนาดใหญ่กว่าคาร์โป้ของกีตาร์โปร่งนั่นเองค่ะ
สายกีตาร์โปร่งใช้สายลวดกีตาร์คลาสสิคใช้สายเอ็น
กีตาร์โปร่งใช้สายลวด – เสียงดังกังวาน
เนื่องจากกีตาร์โปร่งนั้นขึงด้วยสายลวดดังนั้นเสียงที่ได้จึงดังกังวานกว่ากีตาร์คลาสสิคมาก แต่สายลวดนั้นก็มีข้อเสียตรงที่มันกดยากกว่า เนื่องจากสายลวดนั้นค่อนข้างแข็งและบางดังนั้นเวลาที่เรากดคอร์ดจึงต้องใช้กำลังในการกดมาก ผลก็คือเวลากดสายลวดมันจะค่อนข้างเจ็บและรู้สึกเหมือนโดนบาดมากกว่าสายไนล่อน หลายๆคนจึงยอมแพ้และเลิกเล่นกีตาร์ไปเลย สำหรับคนที่ไม่ยอมแพ้และฝึกเล่นต่อไปเรื่อยๆ หลังจากฝึกฝนไปสักระยะหนึ่งนิ้วที่ได้รับการกดทับหรือเสียดสีเป็นเวลานานๆจะสร้างผิวหนังขึ้นมาซึ่งเรียกกันทั่วๆไปว่า ” นิ้วด้าน” ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า “Callus” หลังจากที่เกิดอาการนิ้วด้านแล้วนั้นเวลาที่เรากดสายกีตาร์ก็จะไม่เจ็บอีกต่อไป ดังนั้นถ้าเรามีอาการนิ้วด้านก็แปลเป็นนัยๆได้ว่าเราเริ่มเล่นเก่งมากขึ้นแล้วนั่นเองค่ะ
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่สนใจซื้อสายกีตาร์แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกสายกีตาร์แบบไหนดี สามารถอ่านบทความ ซื้อสายกีตาร์โปร่งรุ่นไหนดี
กีตาร์คลาสสิคใช้สายเอ็น – เสียงนุ่มและเบา
เนื่องจากกีตาร์คลาสสิคใช้สายเอ็นขึงก็จะให้เสียงที่นุ่มนวลและเบากว่ากีตาร์โปร่ง สายเอ็นนั้นค่อนข้างนุ่มและหนากว่าสายลวดเวลาเล่นจึงเจ็บน้อยกว่ากีตาร์โปร่งจึงรู้สึกว่าเล่นได้ง่ายกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นร่างกายก็สามารถสร้างผิวหนังขึ้นมาจากการกดทับหรือเสียดสีได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการเล่นกีตาร์คลาสสิคก็ทำให้เกิดนิ้วด้านขึ้นได้เหมือนกันค่ะ
กีตาร์โปร่งเน้นตีคอร์ดกีตาร์คลาสสิคเน้นฟิงเกอร์สไตล์
กีตาร์โปร่ง – สไตล์เพลงที่ใช้กับกีตาร์โปร่งก็จะเป็นพวกแนวป๊อบที่เน้นการตีคอร์ดและร้องทำนองประกอบ กีตาร์โปร่งจะเหมาะกับการตีคอร์ดมากเพราะให้เสียงที่ดังกังวานและนอกจากนี้นักกีตาร์ส่วนมากจะใช้ ” ปิ๊ก” ในการตีคอร์ดเพื่อให้ได้เสียงที่ดังและกังวานมากกว่าเดิม และเนื่องจากความนิยมในการใช้ปิ๊กเล่นกีตาร์โปร่ง ดังนั้นผู้ผลิตกีตาร์จึงสร้างปิ๊กการ์ด Pick guard ซึ่งเป็นวัสดุแผ่นบาง มักวางถัดจากโพรงเสียงด้านล่างเพื่อรองรับรอยขีดข่วนจากการใช้ปิ๊ก กีตาร์โปร่งสามารถเล่นแนวทำนองได้เหมือนกันแต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก
กีตาร์คลาสสิค – ชื่อว่ากีตาร์คลาสสิคก็สามารถบอกได้ว่าเหมาะกับการเล่นดนตรีคลาสสิคนั่นเองค่ะ ซึ่งโดยส่วนมากจะใช้ในการเล่นเป็นแนวทำนองซึ่งเรียกว่าฟิงเกอร์สไตล์ (finger style) โดยการเล่นลักษณะนี้นักกีตาร์จะเล่นรวมทุกองค์ประกอบตั้งแต่ แนวทำนอง (melody) แนวประสาน (harmony) และแนวเบส (bass) เข้าด้วยกัน จะใช้นิ้วด้านขวาครบทั้ง5 นิ้วในการเล่นทำนองและแนวประสาน ดังนั้นจึงไม่มีการใช้ปิ๊กในการเล่นกีตาร์คลาสสิคและก็จะไม่มีปิ๊กการ์ด (pick guard) บนกีตาร์คลาสสิคค่ะ กีตาร์คลาสสิคนั้นสามารถใช้เล่นแบบตีคอร์ดแล้วร้องเหมือนกับกีตาร์โป่งแต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควรเนื่องจากเสียงจะไม่ดังกังวานเท่ากับการตีคอร์ดจากกีตาร์โปร่งค่ะ
นอกจากสไตล์คลาสสิคแล้วกีตาร์คลาสสิคยังนำมาใช้เล่นในสไตล์ฟลามิงโก (Flamenco) ซึ่งจะมีการตีคอร์ดแล้วเล่นทำนองสลับกันไปมา แม้ว่าจะมีกีตาร์ที่ใช้สำหรับเล่นฟลามิงโกโดยเฉพาะแต่นักกีตาร์หลายคนที่เพิ่งเริ่มเล่นสไตล์ฟลามิงโกก็จะใช้กีตาร์คลาสสิคในการเล่นสไตล์นี้เช่นกัน
สำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหากีตาร์ในราคาเบาๆ สามารถอ่านบทความ กีตาร์โปร่งราคาต่ำกว่า 5000 บาท ซึ่งครูคัดเลือกกีตาร์ที่คุณภาพดี ราคาถูก รับรองว่าซื้อมาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
เอาล่ะค่ะหวังว่าเพื่อนๆคงจะได้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างกีตาร์โปร่งและกีตาร์คลาสสิคมากขึ้นนะคะ ทีนี้ก็ต้องตัดสินใจแล้วล่ะค่ะว่าอยากจะเล่นกีตาร์สไตล์ไหน สำหรับครูเองก็เคยเล่นทั้งสองสไตล์ค่ะแต่โดยส่วนตัวจะชอบกีตาร์คลาสสิคมากกว่าเพราะว่าเจ็บน้อยกว่าและทาบคอร์ดได้ง่ายกว่าด้วยค่ะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าเพื่อนๆชอบแบบไหนก็จัดตามใจชอบเลยค่ะ
Leave a Reply