หากคุณยังไม่รู้ว่า Cantus Firmus หรือ 1st Species Counterpoint คืออะไร โปรดอ่านบทความเหล่านี้ก่อน:
2nd Species Counterpoint คือการใช้สองโน้ตต่อหนึ่งโน้ต หมายความว่า Cantus Firmus จะเป็นโน้ตตัวกลม (whole note) และ Counterpoint จะประกอบด้วยโน้ตครึ่ง (half notes) สองตัว
อย่าลืมดาวน์โหลดคู่มือการฝึกเขียน Counterpoint ฟรีได้ที่นี่! คลิกที่นี่.
กฎของ 2nd Species Counterpoint
ใน 2nd Species Counterpoint คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎของ 1st Species และมีกฎใหม่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- จังหวะลง (downbeat) ต้องเป็นเสียงประสาน (consonant) เสมอ
- P1, P8, P5, P4, M3, m3, M6, m6, M10, m10
- จังหวะขึ้น (upbeat) อาจเป็นเสียงประสานได้
- จังหวะขึ้นอาจเป็นเสียงไม่ประสาน (dissonant) ได้ หากเคลื่อนที่จากโน้ตก่อนหน้าไปยังโน้ตถัดไปด้วยการเคลื่อนที่ทีละขั้น (stepwise motion)
- หากจังหวะขึ้นเคลื่อนที่ด้วยการข้ามช่วง (skip) จะต้องเป็นเสียงประสานเสมอ
- จังหวะสุดท้าย: Cantus Firmus ในเสียงล่างต้องจบด้วยเพอร์เฟ็กต์ 5 (perfect 5th) ตามด้วยเมเจอร์ 6 (major 6th)
- จังหวะสุดท้าย: Cantus Firmus ในเสียงบนต้องจบด้วยเพอร์เฟ็กต์ 5 (perfect 5th) ตามด้วยไมเนอร์ 3 (minor 3rd)
- ห้ามเขียนโน้ตที่เป็นเพอร์เฟ็กต์ 5 (fifths) หรืออ็อกเทฟ (octaves) ในจังหวะลง (downbeats) ที่ต่อเนื่องกัน
หนังสือสำหรับเรียนรู้ Counterpoint
- Gradus Ad Parnassum โดย Joseph Fux (แปลโดย Alfred Mann) เป็นหนังสือพื้นฐานที่นิยมที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นในการเรียนรู้ Counterpoint
- Counterpoint in Composition: The Study of Voice Leading by Felix Salzer, Carl Schachter
สองโน้ตต่อหนึ่งโน้ต (2 notes against 1)
ใน 2nd Species Counterpoint Counterpoint จะประกอบด้วยโน้ตที่มีความยาวครึ่งหนึ่งของ Cantus Firmus — กล่าวคือ Counterpoint จะเป็นโน้ตครึ่ง (half notes) และ Cantus Firmus จะเป็นโน้ตตัวกลม (whole notes) โน้ตครึ่งตัวแรกจะเป็นจังหวะลง (downbeat) และโน้ตครึ่งตัวที่สองจะเป็นจังหวะขึ้น (upbeat)
จังหวะลง (downbeat) ต้องเป็นเสียงประสาน (consonant) และจังหวะขึ้น (upbeat) อาจเป็นเสียงไม่ประสาน (dissonant) ได้ หากเคลื่อนที่จากโน้ตก่อนหน้าไปยังเสียงประสาน (consonance) เท่านั้น ความไม่ประสานแบบเดียวที่อนุญาตในจังหวะขึ้นคือการใช้เพื่อ ‘เติมเต็มเสียงสาม’ (filling in the third)
ห้องแรก (The first measure)
คุณสามารถเริ่มด้วยเสียงประสาน (consonance) หรือการพักครึ่งห้อง (half rest) ได้
ห้องรองสุดท้ายและห้องสุดท้าย
ห้องรองสุดท้ายควรมีเสียงเพอร์เฟ็กต์ 5 (fifth) ตามด้วยเสียงเมเจอร์ 6 (major sixth) เมื่อ Cantus Firmus อยู่ในเสียงล่าง (lower voice) แต่หาก Cantus Firmus อยู่ในเสียงบน (upper voice) ควรมีเสียงเพอร์เฟ็กต์ 5 (fifth) ตามด้วยเสียงไมเนอร์ 3 (minor third)
ระวังอย่าใช้ F ต่อกับ B (fa และ ti) เพราะนี่ไม่ใช่เสียงเพอร์เฟ็กต์ 5 (perfect fifth) หรือเพอร์เฟ็กต์ 4 (perfect fourth) แต่เป็นเสียงไทรโทน (tritone)
ขอแนะนำให้เขียนตอนจบก่อนที่จะเริ่มการฝึกเขียน Counterpoint ของคุณ
ระวังการใช้เสียงเพอร์เฟ็กต์ 5 (Parallel Fifths) และอ็อกเทฟ (Octaves) ที่ขนานกัน
ห้ามเขียนเสียงเพอร์เฟ็กต์ 5 (fifths) หรืออ็อกเทฟ (octaves) ในจังหวะลง (downbeats) ที่ต่อเนื่องกัน
ใช้การกระโดดเสียงไมเนอร์ 6 (minor sixth) หรืออ็อกเทฟ (octave) เพื่อแยกเสียงทั้งสอง
บางครั้งคุณอาจเจอปัญหาที่เสียงทั้งสองใกล้กันเกินไป คุณสามารถใช้การกระโดดเสียงไมเนอร์ 6 (minor sixth) หรืออ็อกเทฟ (octave) เพื่อแยกเสียงทั้งสองออกจากกันได้
ขั้นตอนการเขียน 2nd Species Counterpoint
ขั้นตอนที่ 1 – เขียนห้องสองห้องสุดท้าย
ขั้นตอนที่ 2 – เขียนห้องสองห้องแรก
ขั้นตอนที่ 3 – มองไปข้างหน้าและตรวจดูว่ามีการกระโดดที่ยากใน Cantus Firmus หรือไม่
ขั้นตอนที่ 4 – เติมห้องต่าง ๆ ให้ครบ
ขั้นตอนที่ 5 – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ทำผิดกฎ
เช่นเคย ให้เล่นหรือร้องผลงานของคุณ นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการฝึกหูของคุณ
จำไว้ว่าการเขียน Counterpoint เป็นเครื่องมือสำหรับการแต่งเพลง สิ่งเหล่านี้เป็นการฝึกฝน ดังนั้นอย่าจริงจังเกินไปจนไม่สามารถทำแบบฝึกหัดให้เสร็จ ทำให้ดีที่สุด ตรวจสอบงานของคุณ แล้วไปยังแบบฝึกหัดถัดไป เหมือนกับทุกอย่าง การฝึกฝนคือสิ่งสำคัญ
ดำเนินต่อไปสู่ 3rd Species Counterpoint ได้ที่นี่
Free Counterpoint Workbook!
ฝึกเขียน Counterpoint ในทุกโหมด (modes) นี่คือลิงก์ดาวน์โหลดฟรีที่ยอดเยี่ยมพร้อม Cantus Firmus ที่เตรียมไว้สำหรับคุณเพื่อฝึกเขียน Counterpoint